ดรอปชิป TikTok วิธีเริ่มขายบน TikTok Shop แบบไม่ต้องสต๊อกของ

TikTok เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยมีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ กว่า 150 ล้านคน ซึ่งถือเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับเจ้าของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในการใช้ TikTok เป็นช่องทางขายใหม่

หนึ่งในวิธีที่เจ้าของร้านสามารถขายสินค้าบน TikTok ได้คือการใช้โมเดลดรอปชิป TikTok โดยให้ซัพพลายเออร์บุคคลที่สามเป็นผู้ดูแลสต๊อกและจัดส่งสินค้าแทน

ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้วิธีเริ่มต้นธุรกิจดรอปชิปบน TikTok ของตัวเอง พร้อมไอเดียประเภทสินค้าที่เหมาะกับแพลตฟอร์มนี้ และกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยให้คุณเริ่มมียอดขายได้เร็วขึ้น

ดรอปชิป TikTok คืออะไร?  

ดรอปชิป TikTok คือโมเดลอีคอมเมิร์ซที่คุณขายสินค้าผ่าน TikTok โดยที่ซัพพลายเออร์บุคคลที่สามเป็นผู้จัดหาสินค้าและดำเนินการจัดส่งให้ทั้งหมด

เจ้าของร้านดรอปชิปสามารถสร้างแคมเปญการตลาดที่น่าสนใจ โดยใช้จุดแข็งของ TikTok เช่น คอนเทนต์ไวรัลและวิดีโอสั้น เพื่อดึงดูดลูกค้า และขายสินค้าด้วยการบวกกำไรจากราคาส่งของซัพพลายเออร์ ทำให้สามารถทำกำไรได้โดยไม่ต้องสต๊อกของเอง

วิธีเริ่มดรอปชิป TikTok แบบง่ายๆ

1. ค้นหาสินค้าที่น่าสนใจและมีโอกาสขายดีบน TikTok
2. เลือกซัพพลายเออร์ที่รับดรอปชิปและเชื่อถือได้
3. เปิดร้านค้าออนไลน์ของคุณให้พร้อมขาย
4. ตั้งค่าและเตรียมบัญชี TikTok สำหรับธุรกิจ
5. สมัคร TikTok Shop เปิดช่องทางขายอย่างเป็นทางการ
6. เริ่มโปรโมตสินค้าด้วยคอนเทนต์ 
7. จัดการคำสั่งซื้อและให้ซัพพลายเออร์ดูแลการจัดส่ง

นี่คือขั้นตอนทั่วไปที่คุณควรพิจารณาเมื่อเริ่มต้นธุรกิจดรอปชิปบน TikTok

1. ค้นหาสินค้าขายดี

ศึกษาว่าสินค้าแบบไหนขายดีบน TikTok หมวดหมู่ยอดนิยม ได้แก่ เครื่องสำอาง, เครื่องประดับ, ของเล่น และสินค้าแฟชั่น ลองดูวิดีโอจากพ่อค้าแม่ค้าดรอปชิปที่ประสบความสำเร็จ เพื่อเรียนรู้แนวทางการขาย โดยเลือกตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ที่มีการแข่งขันน้อย เพราะหากขายสินค้าที่พ่อค้าแม่ค้ารายใหญ่มีอยู่แล้ว อาจเจาะตลาดได้ยาก ค้นหาเว็บไซต์หรือแคตตาล็อกของซัพพลายเออร์ดรอปชิปเพื่อหาสินค้าที่แปลกใหม่ น่าสนใจ และตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

2. เลือกซัพพลายเออร์ดรอปชิป

ซัพพลายเออร์ดรอปชิปเป็นผู้ดูแล การจัดเก็บ แพ็กสินค้า และจัดส่งสินค้าให้ลูกค้า ดังนั้น ควรศึกษาว่ามีซัพพลายเออร์รายใดบ้างที่ให้บริการสินค้าที่คุณต้องการขายบน TikTok อ่านรีวิวสินค้าและความคิดเห็นจากพ่อค้าแม่ค้าที่เคยใช้บริการซัพพลายเออร์เหล่านั้น

ซัพพลายเออร์ดรอปชิปที่ได้รับความนิยม ได้แก่ SaleHoo, orldwide Brands และ Megagoods อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบว่าสามารถ เชื่อมต่อกับร้านค้าออนไลน์ของคุณได้หรือไม่ เช่น Spocket ซึ่งมีแอปบน Shopify App Store ที่สามารถเชื่อมต่อกับร้านค้า Shopify ได้อย่างราบรื่น

3. เปิดร้านค้าออนไลน์

สร้างร้านดรอปชิปที่มีคุณภาพ เพื่อให้ลูกค้าสามารถค้นหาและเข้าถึงได้ง่าย เมื่อพวกเขามีส่วนร่วมกับบัญชี TikTok และคอนเทนต์ของคุณ เลือกใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เชื่อถือได้ เช่น Shopify ซึ่งมีเครื่องมือช่วยจัดการธุรกิจมากมาย เช่น Shopify Inbox สำหรับการสื่อสารกับลูกค้า และ Shopify Checkout สำหรับการชำระเงินที่ปลอดภัย นอกจากนี้ TikTok ยังมีแอป Shopify ที่ช่วยให้คุณสามารถซิงค์แคตตาล็อกสินค้าเข้ากับบัญชี TikTok ได้ง่าย และสามารถเชื่อมโยงโฆษณา TikTok ไปยังร้านค้า Shopify ของคุณโดยตรง

ใช้ภาพสินค้าคุณภาพสูงและเขียนคำอธิบายสินค้าที่น่าสนใจให้ชัดเจนที่สำคัญคือ TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาสำหรับมือถือ ดังนั้น ร้านค้าออนไลน์ของคุณควร รองรับการใช้งานบนมือถือ เช่น แถบนำทางที่เลื่อนดูได้ง่ายและปุ่ม Call-to-Action (CTA) ที่เด่นชัด เพื่อให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น

4. ตั้งค่าบัญชี TikTok  

สมัครบัญชี TikTok Business โดยกรอกข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับธุรกิจดรอปชิปของคุณ ความแตกต่างระหว่างบัญชี TikTok Business กับบัญชีทั่วไปคือ บัญชีธุรกิจมีเครื่องมือวิเคราะห์ (Analytics) และเครื่องมือสำหรับร้านค้า เช่น Commercial Music Library ที่ให้คุณเข้าถึงเพลงและเสียงมากกว่าหนึ่งล้านรายการที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในคอนเทนต์ของคุณ

เชื่อมต่อบัญชี TikTok Business กับร้านค้าออนไลน์ของคุณ เพื่อให้ลูกค้าสามารถกดเข้าไปที่บัญชีหรือวิดีโอแล้วเข้าถึงร้านค้าได้โดยตรง นอกจากนี้ควรใช้องค์ประกอบของแบรนด์ เช่น โลโก้และธีมสี เพื่อให้ภาพลักษณ์ของ TikTok และร้านค้าออนไลน์ของคุณดูสอดคล้องกัน

5. สมัคร TikTok Shop

TikTok Shop ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์สามารถขายสินค้าผ่าน TikTok ได้โดยตรง โดยไม่ต้องพาผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อื่น แม้ว่าคุณยังคงต้องมีร้านค้าออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับ TikTok Shop แต่ฟีเจอร์นี้สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้ง่ายขึ้น เพราะลูกค้าสามารถซื้อสินค้าภายในแอปได้เลย คุณสามารถสมัคร TikTok Shop โดยกรอกข้อมูลที่จำเป็น เช่น ชื่อธุรกิจ, เลขประจำตัวผู้เสียภาษี (EIN) และที่อยู่ธุรกิจที่ลงทะเบียน

เมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว คุณสามารถเริ่มขายสินค้าโดยตรงผ่านแอป TikTok ได้ทันที ผ่าน วิดีโอในฟีด, ไลฟ์สตรีม และแท็บร้านค้า (Shop Tab) ซึ่งเป็นมาร์เก็ตเพลสภายในแอปที่ให้ผู้ใช้เลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ได้รับอนุมัติบน TikTok Shop

6. เริ่มโปรโมตสินค้าด้วยคอนเทนต์  

วางแผนกลยุทธ์การตลาดโดยใช้วิธีหลากหลายในการเข้าถึงลูกค้าบน TikTok ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา คอนเทนต์จากอินฟลูเอนเซอร์ หรือคอนเทนต์แบบออร์แกนิก โดยเริ่มจากการสร้างบัญชี TikTok Ads Manager เพื่อดูผลลัพธ์ของโฆษณาแต่ละชิ้น และปรับแคมเปญให้เหมาะสมตามคอนเทนต์ที่ได้ผลดีที่สุด

หากเป็นไปได้ ให้ติดต่ออินฟลูเอนเซอร์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย และส่งสินค้าตัวอย่างให้ลองใช้ จากนั้น สร้างวิดีโอต้นฉบับที่น่าสนใจและสนุกสนาน โดยเน้นให้เห็นการใช้งานสินค้าจริง เช่น คลิปเต้นที่ใส่รองเท้าแฟชั่น วิดีโอสอนแต่งหน้าโดยใช้ผลิตภัณฑ์อายแชโดว์ที่คุณขาย

7. จัดการออเดอร์

วางระบบจัดการออเดอร์สำหรับยอดขายจากดรอปชิป TikTok โดยคุณสามารถเลือกจัดการแบบแมนนวล (สั่งซื้อกับซัพพลายเออร์ทุกครั้งที่มีออเดอร์) หรือ ประหยัดเวลาด้วยระบบอัตโนมัติ เพื่อแจ้งออเดอร์ไปยังซัพพลายเออร์โดยตรงผ่านร้านค้าออนไลน์ของคุณ

ใน Shopify App Store มีแอปอย่าง AutoDS และ Dropified ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยจัดการคำสั่งซื้ออัตโนมัติ ช่วยให้คุณจัดส่งได้รวดเร็วและลดข้อผิดพลาด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะ TikTok มีกฎว่าผู้ขายในสหรัฐฯ ต้องจัดส่งภายใน 2 วันทำการ

อย่าลืมดูแลลูกค้าให้ดี ตอบคำถามหรือข้อกังวลต่างๆ อย่างรวดเร็ว และหากต้องการให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ลองพิจารณา ติดตั้งแชตบอต AI บนร้านค้าออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีแม้คุณจะไม่ได้อยู่หน้าร้านตลอดเวลา

สินค้าดรอปชิป TikTok ขายดี ต้องเป็นของแบบไหน?

สินค้าที่เหมาะกับการทำดรอปชิป TikTok ควรเป็นสินค้าที่กำลังเป็นกระแส หรือมีความ “ว้าว” เมื่อนำเสนอผ่านวิดีโอ เช่น เสื้อผ้าแฟชั่นแบบลำลอง แว่นกันแดด บอดี้สูท เครื่องประดับ และไอเท็มแต่งตัวที่ถ่ายออกมาสวยและดึงดูดสายตา

สินค้าที่ใช้งานง่ายในชีวิตประจำวัน เช่น อุปกรณ์ทำความสะอาด ขวดน้ำ หรือของใช้ในครัว ก็ขายดีเช่นกัน เพราะสามารถโชว์การใช้งานในวิดีโอได้อย่างชัดเจนและน่าสนใจ

ในปี 2023 มีผู้ใช้งาน TikTok มากถึง ประมาณ 37% ที่ซื้อของผ่านแอป ดังนั้นควรมองหาสินค้าที่สามารถกระตุ้นให้คน “อยากซื้อทันที” เมื่อเห็นในวิดีโอ

📖 อ่านต่อ: TikTok Success Stories 9 ธุรกิจเล็กที่โด่งดังจากไวรัลบน TikTok

การโฆษณาสินค้าดรอปชิป TikTok

คุณสามารถทำการตลาดสินค้าดรอปชิปบน TikTok ได้หลายวิธี เช่น

• โฆษณาแบบชำระเงิน
• การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์
• คอนเทนต์ต้นฉบับที่คุณสร้างเอง

โฆษณาแบบชำระเงิน

คุณสามารถโปรโมตสินค้าดรอปชิปผ่าน TikTok Ads Manager ซึ่งทำงานคล้ายกับ Google Ads หรือ YouTube Ads แต่แทนที่จะใช้การขายแบบตรงๆ ควรสร้างโฆษณาให้ สนุก มีลูกเล่น และดึงดูดคนดู เช่น การสัมภาษณ์ลูกค้าที่ใช้แล้วประทับใจ หรือวิดีโอสาธิตการใช้งานสินค้าจริง

ปรับแคมเปญโฆษณาของคุณตามผลลัพธ์จากวิดีโอที่ได้รับความสนใจมากที่สุด และใช้ระบบ การตั้งเป้าหมายอัตโนมัติของ TikTok เพื่อยิงโฆษณาไปยังกลุ่มคนที่มีแนวโน้มกำลังมองหาสินค้าแบบเดียวกับที่คุณขายอยู่

การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์

Influencer Marketing คือการร่วมงานกับผู้มีอิทธิพลบน TikTok เพื่อช่วยโปรโมตสินค้าของคุณให้กับกลุ่มผู้ติดตามของพวกเขา โดยทั่วไป หากคุณต้องการร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก อาจต้องมีการตกลงค่าจ้าง แต่คุณก็สามารถเริ่มจากอินฟลูเอนเซอร์สายไมโครหรือรายเล็ก โดยส่งตัวอย่างสินค้าให้พวกเขานำไปรีวิวในวิดีโอได้เช่นกัน

ก่อนติดต่ออินฟลูเอนเซอร์ อย่าลืมศึกษากลุ่มผู้ติดตามให้ดี เลือกคนที่มีกลุ่มเป้าหมายสอดคล้องกับแบรนด์และประเภทสินค้าของคุณ การทำงานกับอินฟลูเอนเซอร์ที่ใช่ ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Shopify Collabs จะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าบน TikTok ได้กว้างกว่าการพึ่งแค่โฆษณาแบบเสียเงินเพียงอย่างเดียว

คอนเทนต์ต้นฉบับที่คุณสร้างเอง

วิธีที่ประหยัดที่สุดในการเข้าถึงลูกค้าบน TikTok คือการสร้างคอนเทนต์ต้นฉบับบนบัญชีของคุณเอง ซึ่งมีโอกาสกลายเป็นไวรัลและดึงดูดทราฟฟิกแบบออร์แกนิกได้

สร้างวิดีโอที่สนุก ตรงกับสไตล์และความสนใจของผู้ติดตาม เช่น

• วิดีโอ POV
• วิดีโอแกะกล่อง (Unboxing)
• คลิปตลก
• วิดีโอตอบโจทย์ชาเลนจ์ที่กำลังเป็นเทรนด์
• วิดีโอให้ความรู้

📖 อ่านเพิ่มเติม: 15 ไอเดียวิดีโอ TikTok ที่ลูกค้าจะต้องชอบ

แม้อาจใช้เวลา แต่การสร้างฐานผู้ติดตามแบบออร์แกนิกถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการดึงดูดลูกค้าให้กับธุรกิจ ดรอปชิป TikTok ของคุณ อย่าลืมสื่อสารให้สอดคล้องกับแบรนด์ และมีส่วนร่วมกับผู้ชมอย่างสม่ำเสมอ ทั้งผ่านวิดีโอ คอมเมนต์ และไลฟ์สด