การทำ Affiliate บน Pinterest คืออะไร?
Pinterest ไม่ใช่แค่โซเชียลมีเดีย แต่เป็นเหมือนเสิร์ชเอนจินด้านภาพที่ผู้คนใช้เพื่อค้นหาไอเดียและแรงบันดาลใจต่างๆ สำหรับนักการตลาดแอฟฟิลิเอต นี่คือโอกาสทองในการเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานที่มีส่วนร่วมสูงและกำลังมองหาสินค้าหรือทางแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักวิธีใช้บัญชี Pinterest ให้ทำงานแทนคุณ พร้อมสร้างรายได้แบบพาสซีฟบนแพลตฟอร์มนี้
Pinterest Affiliate Marketing คืออะไร?
Pinterest เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลที่มีผู้ใช้งานประจำกว่า 535 ล้านคนต่อเดือน และเข้าถึงผู้คนได้หลากหลาย ตั้งแต่กลุ่ม Gen Z ไปจนถึงครัวเรือนรายได้สูง
บน Pinterest คอนเทนต์จะถูกจัดรูปแบบเป็น “Pins” ซึ่งประกอบด้วยรูปภาพ วิดีโอ และลิงก์ไปยังเว็บไซต์ ผู้ใช้สามารถเลื่อนดูและบันทึก Pins เหล่านี้เพื่อสร้างเป็นบอร์ดไอเดียหรือ Mood Board เสมือนจริง
การทำ Affiliate บน Pinterest คือการสร้างรายได้จากการโปรโมตสินค้าและบริการผ่าน Pins เหล่านี้ โดยเมื่อมีคนคลิกลิงก์แอฟฟิลิเอตใน Pin ของคุณ และทำการซื้อสินค้ากับพาร์ตเนอร์ คุณก็จะได้รับค่าคอมมิชชันทันที วิธีนี้เปิดโอกาสให้คุณใช้ความชอบในการแชร์คอนเทนต์ มาต่อยอดเป็นรายได้แบบพาสซีฟได้จริง
เมื่อเทียบกับโซเชียลคอมเมิร์ซทั่วไป การทำ Affiliate บน Pinterest ถือว่าตรงกลุ่มเป้าหมายมากกว่า เพราะเน้นชุมชนและความสนใจร่วมกันเป็นหลัก หากคุณโปรโมตสินค้าบน Pinterest มักจะเข้าถึงกลุ่มคนที่สนใจตลาดเฉพาะ เช่น การท่องเที่ยว ของแต่งบ้าน อาหาร และหมวดหมู่อื่นๆ ที่มีความโดดเด่นด้านภาพและไลฟ์สไตล์
การทำ Affiliate บน Pinterest ต้องเริ่มยังไง?
การโปรโมตลิงก์แอฟฟิลิเอตบน Pinterest ไม่ซับซ้อน เพียงแค่ดึงทราฟฟิกจากแพลตฟอร์มไปยังเว็บไซต์ของพาร์ตเนอร์ที่คุณร่วมโปรแกรมด้วย โดยสามารถเริ่มได้ตามขั้นตอนง่ายๆ ต่อไปนี้
- สมัครเข้าร่วมโปรแกรมแอฟฟิลิเอต: เลือกโปรแกรมที่ตรงกับความสนใจของคุณ เช่น ShareASale หรือ Shopify Affiliate Program และเลือกโปรดักต์ที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพื่อเพิ่มโอกาสในการปิดยอดขาย
- ออกแบบ Pins ให้น่าสนใจ: สร้าง Pins ที่ดึงดูดสายตา โดยใช้ภาพหรือวิดีโอที่มีคุณภาพ และต้องไม่ผิด กฎของ Pinterest ด้านเนื้อหาโฆษณา ใช้เครื่องมืออย่าง Canva เพื่อช่วยออกแบบได้ง่ายและฟรี
- ปรับแต่ง Pins ให้ค้นหาเจอง่าย: ใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง ลงในคำอธิบาย Pin ชื่อบอร์ด และไบโอของโปรไฟล์ เพื่อช่วยให้คนค้นหาเจอมากขึ้น คุณสามารถใช้เครื่องมืออย่าง Pinterest Trends หรือ Google Keyword Planner เพื่อช่วยหาไอเดียคำค้น
- สร้าง บัญชี Pinterest แบบธุรกิจ : บัญชีแบบธุรกิจจะให้คุณเข้าถึงเครื่องมือที่สำคัญ เช่น Analytics และตัวเลือกโฆษณา ช่วยให้คุณติดตามผลลัพธ์ของ Pins และปรับกลยุทธ์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น
เพิ่งเริ่มทำ Affiliate ใช่ไหม?
ลองอ่านคู่มือสำหรับมือใหม่ที่จะช่วยให้คุณเริ่มสร้างลิงก์แอฟฟิลิเอต และเริ่มต้นหารายได้แบบพาสซีฟได้ทันที!
ทำไมถึงควรใช้ Pinterest สำหรับทำ Affiliate?
Pinterest มีผู้ใช้งานกว่า 535 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งส่วนใหญ่เปิดใจพร้อมซื้อสินค้าจากสิ่งที่พวกเขาค้นพบในแพลตฟอร์ม
สำหรับนักการตลาดแอฟฟิลิเอต Pinterest คือเครื่องมือชั้นดีในการ ดึงทราฟฟิกไปยังคอนเทนต์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นบล็อก, หน้าแลนดิ้งสำหรับแอฟฟิลิเอต, หรือ วิดีโอบน YouTube
ต่อไปนี้คือเหตุผลว่าทำไม Pinterest จึงเหมาะอย่างยิ่งกับการทำ Affiliate Marketing
- ความตั้งใจซื้อสูง: ผู้ใช้ Pinterest มักอยู่ในช่วงกำลังค้นหาสินค้าหรือไอเดียใหม่ๆ โดย 8 0% ของผู้ใช้ที่ใช้งานทุกสัปดาห์ มีเจตนาจะซื้อของ ตามข้อมูลจาก Pinterest
- เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นภาพ: ธรรมชาติของ Pinterest คือเนื้อหาที่เป็นภาพ ทำให้คุณสามารถนำเสนอสินค้าได้อย่าง สวยงามและดึงดูดสายตา ส่งผลให้เกิดการคลิกมากขึ้น
- คอนเทนต์มีอายุการใช้งานนาน: ต่างจากแพลตฟอร์มอื่นที่โพสต์มักหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง แต่ Pins บน Pinterest สามารถสร้างทราฟฟิกได้นานหลายเดือนหรือเป็นปี
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้ง่าย: Pinterest มีระบบกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำ ทำให้คุณสามารถ เข้าถึงผู้ใช้ตามเพศ อายุ ความสนใจ และพฤติกรรมเฉพาะกลุ่ม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยิ่งมีคนเห็นลิงก์แอฟฟิลิเอตของคุณมากเท่าไหร่ โอกาสในการสร้างยอดขายและรับค่าคอมมิชชั่นก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
“เราสามารถเพิ่มผู้ติดตามบน Pinterest ได้เกือบ 50,000 คน และ 50% ของทราฟฟิกในบล็อกก็มาจากที่นี่”
— Daniella Flores ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ I Like to Dabble
เข้าใจกลุ่มผู้ใช้งาน Pinterest ก่อนเริ่มทำ Affiliate
หากคุณต้องการโปรโมตลิงก์แอฟฟิลิเอตบน Pinterest ให้ได้ผลดี การรู้จักกลุ่มผู้ใช้งานของแพลตฟอร์มนี้เป็นสิ่งสำคัญ
- ช่วงอายุ: ผู้ใช้งานส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 18–49 ปี โดยมีสัดส่วนของกลุ่ม Gen Z เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- เพศ: ประมาณ 77% ของผู้ใช้ Pinterest เป็นผู้หญิง แต่ในปัจจุบันก็เริ่มมีผู้ใช้งานเพศชายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
- รายได้: ผู้ใช้งาน Pinterest จำนวนมาก มีรายได้ครัวเรือนในระดับสูง ซึ่งหมายความว่าพวกเขามีแนวโน้มจะซื้อสินค้าและบริการที่มีมูลค่าสูงมากขึ้น
กำลังมองหาโปรแกรมแอฟฟิลิเอตใหม่ๆ อยู่ใช่ไหม? เรารวมไว้ให้แล้วมากกว่า 50 โปรแกรมที่ให้ค่าคอมมิชชันสูง พร้อมให้คุณเริ่มสร้างรายได้ได้เลย!
11 เคล็ดลับทำ Affiliate บน Pinterest ให้ได้ผล
นี่คือเคล็ดลับสำคัญสำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มทำ Affiliate บน Pinterest อย่างมีประสิทธิภาพ
- รู้กฎการใช้งาน
- สร้างหลาย Pins ต่อโพสต์
- ลองใช้รูปแบบ Pins ที่หลากหลาย
- เปิดใช้งาน Rich Pins
- ตั้งเวลาโพสต์ Pins ล่วงหน้า
- ปักหมุดลงใน Group Boards
- ปรับแต่ง SEO ให้เหมาะสม
- ปรับโปรไฟล์ Pinterest ของคุณ
- สร้างลิสต์อีเมล
- วิเคราะห์ประสิทธิภาพของ Pins
- โปรโมต Pins ที่ให้ผลลัพธ์ดี
1. รู้กฎการใช้งาน
ศึกษากฎการสร้าง โพสต์ และแชร์คอนเทนต์แอฟฟิลิเอตบน Pinterest ให้ดี เพราะการทำผิดอาจทำให้คอนเทนต์ของคุณถูกบล็อกได้ โดยหลักๆ ที่ควรระวังมีดังนี้
- ห้ามซ่อนลิงก์ (Cloaking): Pinterest ไม่อนุญาต ให้ย่อลิงก์หรือปกปิดลิงก์แอฟฟิลิเอต เพื่อให้ผู้ใช้สามารถรู้ได้ล่วงหน้าว่าคลิกแล้วจะไปที่ไหน
- ต้องเปิดเผยความเป็นแอฟฟิลิเอต: กฎหมายของ FTC กำหนดให้ผู้ทำแอฟฟิลิเอต ต้องแจ้งว่าเป็น “โพสต์ที่ได้รับการสนับสนุน” หรือ “มีลิงก์แอฟฟิลิเอต” โดยควรใส่คำชี้แจงไว้ใน Pin และหน้า Landing Page
- ห้ามใช้บัญชีปลอม: ห้ามใช้บัญชีอื่นหรือชื่อปลอมในการรีโพสต์เนื้อหาของตัวเอง เพราะผิดกฎของ Pinterest
ฝ่าฝืนข้อใดข้อหนึ่ง อาจทำให้คอนเทนต์ของคุณถูกลบ หรือบัญชีถูกจำกัดการใช้งานได้
2. สร้างหลาย Pins ต่อโพสต์
ทุกครั้งที่คุณสร้างโพสต์สำหรับการทำ Affiliate ควรทำหลาย Pins ที่ใส่ลิงก์แอฟฟิลิเอตเดียวกัน เพราะยิ่งคุณมี Pins มากเท่าไหร่ โอกาสที่ผู้ชมจะมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ของคุณก็ยิ่งมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบันทึก (Save) การคลิก ชมวิดีโอ คอมเมนต์ หรือกดติดตาม โดยเกณฑ์ของการมีส่วนร่วมที่ดีมักเริ่มต้นที่ประมาณ 1%
คุณสามารถค้นหา Pins บน Pinterest ด้วยคีย์เวิร์ดหรือวลีที่เกี่ยวข้อง ลองดูผลลัพธ์ในหมวดหมู่หรือกลุ่มตลาดของคุณ จะเห็นว่ามีตัวอย่างคอนเทนต์ให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ภาพขาวดำไปจนถึงกราฟิกสีสันสดใส

“คุณสามารถใช้กลยุทธ์การสร้างหลาย Pins เพื่อขยายคีย์เวิร์ดให้หลากหลายมากขึ้น” — R.J. Weiss นักการตลาดแอฟฟิลิเอตสายการเงิน กล่าว “เช่น ถ้าคุณมีโพสต์เกี่ยวกับการหาเงิน คุณสามารถสร้าง Pins ที่ใส่คีย์เวิร์ดหลากหลายซึ่งตรงกับเจตนาการค้นหา เช่น อาชีพเสริม หรือ หารายได้พิเศษ และทั้งหมดนี้สามารถลิงก์กลับไปยังหน้าเดียวกันในเว็บไซต์ของคุณได้”
ไม่มีข้อกำหนดว่าคุณจะสร้าง Pins แอฟฟิลิเอตได้กี่แบบต่อหนึ่งคอนเทนต์หรือหนึ่งลิงก์ สิ่งสำคัญคือกราฟิกต้องมีคุณภาพและโดดเด่นจนสะดุดตา ลองปรับรูปแบบให้หลากหลาย เช่น:
- ภาพแนวตั้งและแนวนอน
- ภาพขาวดำและภาพสี
- ภาพสต็อกและกราฟิก
- คอนเทนต์ที่เน้นข้อความ และคอนเทนต์ที่เน้นภาพเป็นหลัก
การสร้าง Pins ใหม่อาจใช้เวลาค่อนข้างมาก Bryan Maniotakis เจ้าของแบรนด์ Minimal Goods ซึ่งคัดสรรสินค้าไลฟ์สไตล์สไตล์มินิมอลสำหรับบ้านและออฟฟิศ ได้ใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อประหยัดเวลาในการสร้าง Pinterest Pins
“ตอนนี้ผมใช้เครื่องมืออัตโนมัติในการสร้างแบนเนอร์ Pinterest โดยระบบจะตรวจจับว่าเว็บไซต์มีบทความใหม่ แล้วสร้าง Pin ให้อัตโนมัติ” — Bryan Maniotakis “มันช่วยผมประหยัดเวลาได้เยอะมากในแต่ละเดือน เพราะไม่ต้องมานั่งทำภาพเองทีละชิ้นอีกต่อไป”

3. ลองใช้รูปแบบ Pins ที่หลากหลาย
ลองสร้าง Pins หลายประเภท เช่น อินโฟกราฟิก วิดีโอ และคารูเซล Pins ความหลากหลายนี้จะช่วยให้คุณเข้าถึงผู้ชมที่กว้างขึ้น และทำให้คอนเทนต์ของคุณดูสดใหม่อยู่เสมอ
ลองใช้รูปแบบ Pins ที่แตกต่างกัน เช่น:
- พินภาพ: บน Pinterest รูปแบบมาตรฐานคือ Image Pins ซึ่งเป็นภาพนิ่งพร้อมคำอธิบาย
- พินวิดีโอ: วิดีโอสั้นที่น่าสนใจ โชว์สินค้า หรือบริการ
- พินไอเดีย: Pins แบบหลายหน้า ที่ช่วยให้คุณเล่าเรื่องราว แชร์วิธีทำ หรือแสดงสินค้าหลายรายการในโพสต์เดียว
- ริชพิน: Pins แบบไดนามิกที่สามารถซิงก์ข้อมูลสินค้ากับเว็บไซต์ได้โดยอัตโนมัติ
4. เปิดใช้งาน Rich Pins
Rich Pins จะดึงข้อมูลจากเว็บไซต์ของคุณโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ใช้งานตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
ตามชื่อเลย Rich Pins จะแสดงข้อมูลได้มากกว่าภาพทั่วไปบน Pinterest โดยจะแสดงรายละเอียดเพิ่มเติมในคำอธิบายของ Pin เช่น ราคาสินค้าและสถานะสินค้า ซึ่งมักจะดึงดูดความสนใจได้มากขึ้นในฟีดที่มีคอนเทนต์หนาแน่น

ลองเปิดใช้งาน Rich Pins สำหรับประเภทคอนเทนต์ดังต่อไปนี้
- สินค้า: แสดงราคาปัจจุบันและสถานะสินค้าใน Rich Pin
- สูตรอาหาร: แสดงเวลาในการทำ คะแนนรีวิว ส่วนผสม และจำนวนที่เสิร์ฟ
- บทความ: แสดงหัวข้อบทความ คำอธิบาย และชื่อผู้เขียนใน Rich Pin
ขั้นตอนการสร้างและเปิดใช้งาน Rich Pins ทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากตั้งค่าเรียบร้อย Pins ที่เข้าเงื่อนไขในอนาคตจะกลายเป็น Rich Pins โดยอัตโนมัติ
5. ตั้งเวลาโพสต์ Pins ล่วงหน้า
หนึ่งในเคล็ดลับที่ช่วยประหยัดเวลาในการทำ Affiliate บน Pinterest คือ การตั้งเวลาโพสต์ล่วงหน้า แอปจัดการอัตโนมัติเช่น Tailwind, Later , และ Hootsuite ช่วยให้คุณกำหนดเวลาที่ต้องการโพสต์ เพิ่มเนื้อหาใหม่ลงในคิว แล้วระบบจะโพสต์ Pins ลงบอร์ดให้โดยอัตโนมัติ
การตั้งเวลาโพสต์ล่วงหน้า จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คอนเทนต์ของคุณเข้าถึงผู้ใช้ในช่วงเวลาที่พวกเขาออนไลน์มากที่สุด
6. ปักหมุดลง Group Boards
บน Pinterest ไม่จำเป็นต้องมีแค่บอร์ดส่วนตัว เพราะยังมี Group Board ที่เปิดให้หลายบัญชีสามารถแชร์คอนเทนต์ร่วมกันได้ ซึ่งข้อดีคือช่วยให้ Pins ของคุณมีโอกาสถูกเห็นมากขึ้น เนื่องจากแต่ละคนในบอร์ดจะช่วยโปรโมตคอนเทนต์ให้กันและกัน
คุณสามารถค้นหา Group Board ที่เกี่ยวข้องกับหมวดสินค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ผ่านเครื่องมืออย่าง Pingroupie
อ่านคำอธิบายของ Group Board เพื่อดูว่าต้องทำอย่างไรถึงจะเข้าร่วมได้ บางบอร์ดอาจกำหนดให้ต้อง ติดตามเจ้าของบอร์ดก่อน จึงจะสามารถขอเข้าร่วมได้
อย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขการโพสต์คอนเทนต์ด้วย เพราะบางบอร์ด ไม่อนุญาตให้ใส่ลิงก์แอฟฟิลิเอตโดยตรงไปยังหน้าสินค้า คุณสามารถเลี่ยงได้โดยลิงก์ไปที่บทความบล็อกหรือวิดีโอ YouTube แทน
7. ปรับแต่ง SEO ให้เหมาะสม
Pinterest ทำหน้าที่เหมือนเสิร์ชเอนจินที่เน้นภาพ ซึ่งหมายความว่าคุณควรปรับโปรไฟล์ให้เหมาะกับการค้นหา เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อที่มีอยู่แล้วและกลุ่มที่กำลังค้นหาสินค้าอย่างจริงจัง
เพื่อให้ทำได้ดีขึ้น ควรใช้หลักการของ SEO เช่น การใช้คีย์เวิร์ดที่มีเจตนาซื้อ และการใช้ Rich Pins ซึ่งช่วยดึงข้อมูลจากเว็บไซต์โดยอัตโนมัติ ทำให้ Pins ของคุณอัปเดตอยู่เสมอ วิธีนี้จะช่วยเพิ่มทราฟฟิก เพิ่มการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้ สร้างการจดจำแบรนด์ และทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมั่นในคอนเทนต์ของคุณ เพราะ Pins ให้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและมีประโยชน์
อัลกอริทึมของ Pinterest จะจับคู่ Pins กับคีย์เวิร์ด ดังนั้นควรเริ่มจากการค้นหาคำที่กลุ่มเป้าหมายกำลังใช้ มีเครื่องมือช่วยวิจัยคีย์เวิร์ดหลายตัวที่สามารถใช้งานได้ฟรี เช่น Ahrefs, Moz Keyword Explorer หรือ Keyword Everywhere
Matt Lally ที่ปรึกษาด้านการตลาดและผู้ก่อตั้ง MattyAds ได้แชร์ขั้นตอนการค้นหาคีย์เวิร์ดที่ได้ผลบน Pinterest
“ให้เข้าไปที่ Pinterest Ads แล้วค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาระหว่าง 10,000 ถึง 100,000 ต่อเดือน” Matt กล่าว “คุณควรใช้คีย์เวิร์ดหลักเหล่านั้นซ้ำๆ ทั้งในชื่อบอร์ดและในภาพของ Pins”
Matt แนะนำเพิ่มเติมว่าให้ลองนำคีย์เวิร์ดนั้นไปค้นหาบน Pinterest เพื่อดูว่าสไตล์ของคอนเทนต์แบบไหนที่ติดอันดับ แล้วสร้างเวอร์ชันของคุณขึ้นมา 4–6 แบบ
เมื่อคุณได้คีย์เวิร์ดมาแล้ว ให้โฟกัสไปที่จุดต่างๆ เหล่านี้เพื่อให้การทำ SEO บน Pinterest ได้ผลจริง
- โปรไฟล์ Pinterest: ใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธีมเนื้อหาไว้ในไบโอ เช่น ถ้าคุณโปรโมตผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ คำอย่าง “สุขภาพผู้หญิง” ควรปรากฏในคำอธิบายบัญชีของคุณ
- คำอธิบาย Pin: ใส่คีย์เวิร์ดให้เฉพาะเจาะจงกับแต่ละ Pin เช่น ถ้าคุณแชร์ Pin ที่สอนผูกเชือกรองเท้า ให้ใส่คำอย่าง “วิธีผูกเชือกรองเท้า” ลงไปด้วย
- คำอธิบายบอร์ด: คำที่ใช้ในบอร์ดจะเฉพาะทางน้อยกว่า Pin แต่เฉพาะกว่าระดับโปรไฟล์ ลองใช้คีย์เวิร์ดระดับกลาง เช่น “คู่มือรองเท้า” หรือ “เคล็ดลับสุขภาพสำหรับผู้หญิง
8. ปรับโปรไฟล์ Pinterest ให้พร้อมใช้งาน
โปรไฟล์ที่ตั้งค่าอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ Pins ของคุณมองเห็นได้มากขึ้นและเข้าถึงผู้ชมได้กว้างขึ้น ลองปรับตามเคล็ดลับที่เราแชร์ไว้ด้านล่างนี้
- เลือกยูสเซอร์เนมที่ค้นหาง่าย: ใช้ชื่อที่จำง่ายและสื่อถึงสิ่งที่คุณทำ ถ้าเป็นไปได้ให้ใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณลงไปด้วย
- เขียนไบโอที่มีคีย์เวิร์ด: บอกให้ชัดว่าคุณทำอะไร อยู่ในสายไหน และใช้คำที่คนมักจะใช้ค้นหา
- สร้างบอร์ดให้ตรงกับคอนเทนต์: แยก Pins เป็นหมวดหมู่ชัดเจน ตั้งชื่อบอร์ดให้อ่านเข้าใจง่าย และตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย
- เปิดใช้ Pinterest Shopping: ถ้าคุณมีร้านค้าออนไลน์ เปิดฟีเจอร์นี้เพื่อให้คนสามารถสั่งซื้อสินค้าจาก Pins ของคุณได้เลย
เชื่อมต่อร้าน Shopify เพื่อโพสต์ Product Pins ได้ทันที และทำให้ประสบการณ์ซื้อของลูกค้าบน Pinterest รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น
9. สร้างลิสต์อีเมล
Monica Lent ผู้ก่อตั้ง Affilimate มองว่า Pinterest อาจเป็นแพลตฟอร์มที่ท้าทายสำหรับนักทำแอฟฟิลิเอต เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่มักใช้เพื่อวางแผนหรือหาแรงบันดาลใจมากกว่าที่จะซื้อของทันที
“คนส่วนใหญ่บน Pinterest ไม่ได้เข้ามาเพื่อแก้ปัญหาทันที แล้วซื้อของเลย” Monica กล่าว “พวกเขามักวางแผนล่วงหน้า ซึ่งนานเกินกว่าคุกกี้ของแอฟฟิลิเอตจะมีผลเสียอีก”
เธอแนะนำว่า กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือการเก็บอีเมลของผู้เข้าชมเอาไว้
“ถ้าคุณมีอีเมลของเขา ก็สามารถทำแคมเปญอีเมลแบบหยดน้ำ (drip campaign) เพื่อค่อยๆ ให้ข้อมูล และแนะนำสินค้าทีละนิดได้” Monica กล่าว
“คนส่วนใหญ่บน Pinterest ไม่ได้เข้ามาเพื่อแก้ปัญหาทันที แล้วซื้อของเลย” Monica กล่าว “พวกเขามักวางแผนล่วงหน้า ซึ่งนานเกินกว่าคุกกี้ของแอฟฟิลิเอตจะมีผลเสียอีก”
เธอแนะนำว่า กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือการเก็บอีเมลของผู้เข้าชมเอาไว้
“ถ้าคุณมีอีเมลของเขา ก็สามารถทำแคมเปญอีเมลแบบหยดน้ำ (drip campaign) เพื่อค่อยๆ ให้ข้อมูล และแนะนำสินค้าทีละนิดได้” Monica กล่าว
วิธีง่ายที่สุดคือเพิ่มฟอร์มสมัครรับข่าวสารบนหน้าแลนดิ้งของคุณ แล้วให้ข้อเสนอจูงใจ เช่น lead magnet ที่เน้นเนื้อหา โค้ดส่วนลด หรือของฟรีอื่นๆ เพื่อดึงดูดคนจาก Pinterest ให้สมัคร จากนั้นก็ใช้แคมเปญอีเมลค่อยๆ สร้างความสัมพันธ์ต่อยอดต่อไป

10. วิเคราะห์ประสิทธิภาพของ Pins
การเข้าใจว่าอะไรทำให้ Pins ของคุณมีผลลัพธ์ที่ดี คือหัวใจของการทำ Affiliate บน Pinterest ให้ประสบความสำเร็จ
ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลของ Pinterest อย่าง Pinterest analytics เพื่อตรวจสอบผลลัพธ์รายเดือนของคุณ ดูว่า Pins ไหนได้ผลดีที่สุด ผู้ชมมีปฏิสัมพันธ์กับคอนเทนต์แบบไหน และหัวข้อไหนที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำไปปรับปรุงในอนาคต
ติดตามเมตริกเหล่านี้เพื่อดูภาพรวมคอนเทนต์ของคุณ
Engagement metrics
ดูข้อมูลอย่างจำนวนการแสดงผล (impressions), การคลิก (clicks) และการบันทึก (saves) เพื่อเข้าใจว่าคอนเทนต์แบบไหนที่กลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมมากที่สุด
Click-through rate
ติดตามอัตราการคลิก (CTR) ของ Pins วัดได้ว่ามีผู้ใช้งานกี่คนที่เห็นคอนเทนต์ของคุณแล้วคลิกไปยังเว็บไซต์ของพาร์ตเนอร์แอฟฟิลิเอตของคุณ บาง Pin อาจดึงดูดสายตาได้ดี แต่บาง Pin อาจโน้มน้าวให้คนคลิกได้มากกว่า
กี่เปอร์เซ็นต์ของคนที่เห็น Pin แล้วคลิก? มีบาง Pin ที่ได้คลิกมากกว่าเฉลี่ยหรือไม่? หรือ Pin ที่มีคำแนะนำหรือรีวิวจากบล็อกเกอร์/อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ดึงทราฟฟิกได้มากกว่าจริงหรือเปล่า?
Conversions
ใช้แดชบอร์ดจากพาร์ตเนอร์แอฟฟิลิเอตของคุณเพื่อติดตามยอดขายหรือ Conversion ที่มาจาก Pinterest
การรู้ว่า Pin ไหนปิดการขายได้ จะช่วยให้คุณวางแผนคอนเทนต์ในอนาคตได้ดีขึ้น อย่าลืมใช้ลิงก์ที่มีโค้ดติดตาม (tracking code) เฉพาะในแต่ละ Pin
ให้ความสำคัญกับสินค้า/คอนเทนต์ที่คุณโปรโมตหนักแต่กลับขายไม่ออก และในทางกลับกัน ให้สังเกตด้วยว่ามีสินค้าชิ้นไหนที่คุณไม่ได้โปรโมตมาก แต่กลับมียอดขายสูง
การมีข้อมูลวิเคราะห์ที่ดีแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าคุณไม่พร้อมนำไปใช้จริง โดยหลังจากวิเคราะห์แล้ว ให้ปรับกลยุทธ์คอนเทนต์ของคุณให้เน้นสิ่งที่เวิร์ก ลองทดสอบรูปแบบคอนเทนต์ คีย์เวิร์ด และช่วงเวลาการโพสต์ที่หลากหลาย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในระยะยาว
11. โปรโมต Pins ที่ทำผลงานได้ดี
เสริมประสิทธิภาพด้านการตลาดของคุณด้วยการซื้อโฆษณาบน Pinterest โดยตามข้อมูลจาก Pinterest โฆษณาที่ได้ผลดีที่สุด มักจะมีลักษณะดังนี้
- เป็นภาพแนวตั้ง ความละเอียดสูง
- แสดงแบรนด์อย่างชัดเจน
- ลิงก์ใช้งานได้จริงและไม่เสีย
- ข้อความกระชับ ชัดเจน
การโปรโมต Pins ที่ทำผลงานได้ดี ร่วมกับ Pins แบบออร์แกนิก ช่วยเพิ่มทราฟฟิกและขยายกลุ่มผู้ติดตามของคุณได้มากขึ้น คุณสามารถใช้ Sponsored Pins เพื่อโปรโมตลิงก์แอฟฟิลิเอตโดยตรง หรือส่งผู้ชมกลับไปที่คอนเทนต์แอฟฟิลิเอตของคุณก็ได้เช่นกัน
แนวทาที่ดีสำหรับการทำ Affiliate บน Pinterest
- เปิดเผยลิงก์แอฟฟิลิเอต: แจ้งให้ชัดเจนว่าคุณมีความสัมพันธ์ในฐานะแอฟฟิลิเอต โดยใส่แฮชแท็กอย่างเช่น #affiliate หรือ #sponsored ไว้ในคำอธิบายของ Pin
- เน้นการให้คุณค่า: ให้ความสำคัญกับการส่งต่อสิ่งที่มีประโยชน์ เช่น คอนเทนต์ที่ให้ข้อมูล ช่วยแก้ปัญหา หรือสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ติดตามของคุณ
- สม่ำเสมอ: ปักหมุดอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้คอนเทนต์ของคุณดูสดใหม่อยู่ตลอดเวลา และรักษาการมีส่วนร่วมจากผู้ติดตาม ใช้เครื่องมือตั้งเวลาโพสต์เพื่อวางแผนล่วงหน้าได้ง่ายขึ้น
- ทดสอบและปรับปรุง: ทดลองใช้รูปแบบ Pins ต่างๆ คำอธิบายที่หลากหลาย และการตั้งค่าการเข้าถึงที่แตกต่างกัน เพื่อค้นหาสิ่งที่ได้ผลดีที่สุดกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ
หากอยากประสบความสำเร็จในการทำ Affiliate บน Pinterest ลองทำตามแนวทางเหล่านี้ แล้วเริ่มปักหมุดเลย!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำ Affiliate บน Pinterest
แชร์ลิงก์แอฟฟิลิเอตบน Pinterest ยังไง?
สร้างบัญชี Pinterest แบบธุรกิจ จากนั้นสร้าง Pin ใหม่แล้วใส่ลิงก์แอฟฟิลิเอตโดยตรงในช่อง URL ได้เลย หรือจะใส่ลิงก์ไปยังคอนเทนต์อื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น บล็อกหรือวิดีโอ เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อก็ได้ อย่าลืมเปิดเผยว่าคอนเทนต์นั้นมีลิงก์แอฟฟิลิเอต หากกฎหมายหรือแพลตฟอร์มกำหนดไว้
Pinterest สร้างรายได้ได้จริงมั้ย?
ได้ คุณสามารถหารายได้ออนไลน์ผ่าน Pinterest โดยการแชร์ลิงก์แอฟฟิลิเอต โดยเมื่อมีคนคลิกลิงก์ของคุณและซื้อสินค้า คุณก็จะได้รับค่าคอมมิชชัน (อัตราค่าคอมฯ จะแตกต่างกันไปตามแบรนด์) คุณสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ เพียงสมัครบัญชี Pinterest เข้าร่วมโปรแกรมแอฟฟิลิเอต แล้วแชร์ลิงก์ของคุณผ่าน Pins
Pinterest เปิดให้แชร์ลิงก์จาก ClickBank หรือไม่?
สามารถแชร์ลิงก์จากเครือข่ายแอฟฟิลิเอตต่างๆ ได้ รวมถึง ClickBank แค่ต้องแน่ใจว่าคุณทำตามแนวทางของ Pinterest ในการแชร์คอนเทนต์แอฟฟิลิเอตอย่างถูกต้อง
เราสามารถทำ Amazon Affiliate บน Pinterest ได้ไหม?
ได้ Pinterest อนุญาตให้แชร์ลิงก์จาก Amazon Associates แต่ลิงก์ต้องชัดเจน ไม่ใช้วิธีซ่อนไว้ (ไม่ Cloaking) เพราะ Pinterest ไม่อนุญาตให้ปิดบังลิงก์
ถ้า Pinterest เปลี่ยนนโยบาย หรืออัลกอริทึม ควรทำยังไง?
อัปเดตข้อมูลจาก Pinterest อยู่เสมอ และทำตามแนวทางที่แนะนำ กระจายกลยุทธ์การตลาดออกไปหลายๆ ช่องทาง และให้ความสำคัญกับการสร้างคอนเทนต์คุณภาพที่มีประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมาย
จะบาลานซ์ระหว่างคอนเทนต์โปรโมตกับคอนเทนต์ทั่วไปได้ยังไง?
ใช้หลัก 80/20 คือ 80% เป็นคอนเทนต์ที่ให้คุณค่าและน่าสนใจ และ 20% เป็นคอนเทนต์ที่เน้นโปรโมตสินค้า
สูตรนี้ช่วยให้ผู้ติดตามรู้สึกมีส่วนร่วม และเชื่อมั่นในแบรนด์ของคุณมากขึ้น
จะดูว่ามีคนมีส่วนร่วมกับ Pins มากแค่ไหนได้จากที่ไหน?
บัญชีธุรกิจของ Pinterest จะมีแดชบอร์ด Analytics ให้คุณดูข้อมูลสำคัญ เช่น Pins ไหนดึงทราฟฟิกเข้ามา หรือสร้างรายได้จากแอฟฟิลิเอตได้บ้าง