ทุกครั้งที่เลื่อนฟีด IG คุณน่าจะเห็นครีเอเตอร์ที่คุณชอบโปรโมตสินค้าต่างๆ ทั้งแบรนด์ของตัวเองและแบรนด์อื่นๆ กันเต็มไปหมด เคยคิดไหมว่าคุณเองก็ทำได้เหมือนกัน? ถึงแม้ว่าเหล่าคนดังที่มีผู้ติดตามหลักล้านจะทำเงินได้เป็นตัวเลขเจ็ดหลักจากการโพสต์ครั้งเดียว แต่จริงๆ แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องมีฟอลเวอร์เยอะขนาดนั้นก็เริ่มทำเงินจาก IG ได้
ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจที่อยากขยายฐานลูกค้า หรือเป็นครีเอเตอร์ที่อยากเริ่มสร้างรายได้จากการทำคอนเทนต์ IG ก็เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายได้ ลองมาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้าง
9 วิธีทำเงินจาก IG
- สร้างคอนเทนต์สปอนเซอร์
- ขายสินค้าของตัวเองผ่านร้านค้าออนไลน์
- ออกแบบสินค้าแบรนด์ตัวเอง
- ทำ Affiliate Marketing
- ขายสินค้าผ่านโซเชียลโดยตรง
- ขายภาพถ่าย หรืองานศิลปะออนไลน์
- ไลฟ์สดแล้วรับรายได้จากแบดจ์
- เปิดระบบสมัครสมาชิกแบบมีค่าใช้จ่าย
- ขายของมือสองผ่าน IG
การทำเงินจาก IG ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดตามเสมอไป วิธีที่เหมาะกับคุณที่สุดจะขึ้นอยู่กับสไตล์คอนเทนต์ที่ทำ กลุ่มเป้าหมายที่โฟกัส และระดับความตั้งใจที่มี
1. ทำคอนเทนต์สปอนเซอร์
คอนเทนต์สปอนเซอร์ เป็นรูปแบบที่ทั้งธุรกิจขนาดเล็กและครีเอเตอร์ต่างก็ได้ประโยชน์ร่วมกัน แบรนด์หลายแห่งไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้เหมือนคนจริงๆ ที่แชร์ประสบการณ์จริง แต่พวกเขาสามารถใช้พลังของครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ เพื่อเชื่อมต่อกับลูกค้าได้ ขณะที่ตัวครีเอเตอร์เองก็ได้รับค่าตอบแทนจากการสร้างคอนเทนต์เหล่านี้
การทำงานร่วมกันจะประสบความสำเร็จมากที่สุดก็ต่อเมื่อคอนเทนต์ดูจริงใจและเป็นธรรมชาติ
Rachel Karten ที่ปรึกษาด้านโซเชียลมีเดียและผู้เขียนจดหมายข่าว Link in Bio บอกว่า “หลายแบรนด์ชอบทำงานกับครีเอเตอร์ที่เป็นแฟนสินค้าของตัวเองอยู่แล้ว”
Rachel แนะนำว่า ครีเอเตอร์ควรเป็นฝ่ายติดต่อไปหาแบรนด์ที่ตัวเองชื่นชอบเพื่อเสนอโอกาสในการร่วมงาน
"การมีสไตล์คอนเทนต์แบบประจำ หรือซีรีส์ที่แบรนด์สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้ เป็นวิธีที่ดีมากในการทำงานกับแบรนด์" เธอกล่าว
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Instagram ของ Alix Earle
"ทุกคนตั้งตารอดูวิดีโอ ‘Get Ready With Me’ ของเธอ นั่นเป็นพื้นที่ที่แบรนด์เครื่องสำอางสามารถเข้าไปปรากฏตัวได้อย่างลงตัว" Rachel อธิบาย "เพราะแฟนๆ รอชมคอนเทนต์ประเภทนี้อยู่แล้ว"
เวลาติดต่อเสนอความร่วมมือกับแบรนด์ อย่าลืมอธิบายลักษณะของกลุ่มผู้ติดตามของคุณ และแนะนำว่าผลิตภัณฑ์ของแบรนด์จะเข้าไปอยู่ในรูปแบบคอนเทนต์ที่คุณทำได้สำเร็จมาแล้วอย่างไร นอกจากนี้ การลงข้อมูลของตัวเองบนแพลตฟอร์มรวมอินฟลูเอนเซอร์อย่าง Shopify Collabs ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยส่งสัญญาณให้แบรนด์รู้ว่าคุณพร้อมเปิดรับโอกาสร่วมงาน
ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่อยากทำงานกับครีเอเตอร์ แนะนำให้ดูว่าครีเอเตอร์มีรูปแบบคอนเทนต์ไหนที่เหมาะกับสินค้าของคุณ แล้วเสนอไอเดียที่ต่อยอดจากสไตล์เดิมที่แฟนๆ ของเขาคุ้นเคย แทนที่จะบังคับให้ครีเอเตอร์ทำคอนเทนต์ที่แปลกใหม่เกินไป
อย่าลืมว่า ไม่ว่าคอนเทนต์สปอนเซอร์จะดูจริงใจแค่ไหน กฎของ Instagram ก็กำหนดให้ทุกคอนเทนต์ที่มีแบรนด์เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง (ไม่ว่าจะเป็นการให้เงินหรือผลประโยชน์ในรูปแบบอื่น) ต้องมีการติดป้าย Paid Partnership อย่างชัดเจนเสมอ
2. เปิดร้านออนไลน์
ถ้าคุณมีร้านออนไลน์อยู่แล้ว คุณน่าจะใช้ไอจีโปรโมตสินค้าและสร้างยอดขายอยู่เป็นประจำ แต่ถ้าคุณเป็นครีเอเตอร์ นี่อาจเป็นโอกาสดีที่จะใช้พลังของตัวเองในการขายสินค้าด้วย
ไม่ว่าจะเป็นสินค้าจริง บริการ หรือสินค้าดิจิทัล คุณสามารถโปรโมตผ่าน Instagram ได้ในฐานะส่วนหนึ่งของแบรนด์ตัวเอง ใช้คอนเทนต์ของคุณในการโชว์ให้เห็นว่าสินค้าหรือบริการนั้นมีคุณค่าอย่างไรสำหรับผู้ติดตาม แล้วใช้โปรแกรมขายของบน Instagram เพื่อทำให้การสั่งซื้อเป็นเรื่องง่ายสำหรับแฟนๆ
ทุกวันนี้เส้นแบ่งระหว่าง "ครีเอเตอร์" และ "นักธุรกิจ" เริ่มเลือนลงเรื่อยๆ เพราะหลายคนต้องการทำเงินจาก IG ด้วยการทำสิ่งที่ตัวเองรัก เช่นเดียวกับ Loki the Wolfdog อินฟลูเอนเซอร์สายสัตว์เลี้ยง ที่ต่อยอดความสำเร็จวิธีทำเงินจาก IG จนสร้างแบรนด์ของตัวเอง ภายใต้แบรนด์ Loki Naturals

ตัวเลือกสำหรับการขายสินค้าและบริการออนไลน์มีหลายแบบ เช่น
- ขายบริการที่คุณเชี่ยวชาญ เช่น การถ่ายภาพ หรือการให้คำปรึกษาเรื่องโซเชียลมีเดีย โดยชี้ทางผู้ติดตามไปยังเว็บไซต์มืออาชีพของคุณ
- ขายสินค้าดิจิทัล เช่น คอร์สออนไลน์, ไฟล์เสียง, อีบุ๊ก หรือพรีเซ็ตแต่งภาพ
- ผลิตและขายสินค้าของตัวเอง พร้อมจัดส่งเอง หรือใช้บริการคลังสินค้าสำหรับการจัดการและจัดส่ง (ดูวิธีหาโรงงานผลิตได้ที่นี่)
- ใช้ระบบดรอปชิป (Dropshipping) เพื่อขายสินค้าโดยไม่ต้องสต็อกหรือจัดส่งเอง
3. ออกแบบสินค้าแบรนด์ตัวเอง
“ครีเอเตอร์สามารถขายสินค้าได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก เพราะคอนเทนต์ที่พวกเขาทำมีเยอะอยู่แล้ว เลยมีโอกาสเสียบโปรโมตสินค้าได้ตลอดเวลา” Chris Vaccarino ผู้ก่อตั้ง Fanjoy บริษัทที่ช่วยครีเอเตอร์ผลิตและขายสินค้าสำหรับแฟนๆ กล่าว
วิธีทำเงินจาก IG แบบนี้ คุณไม่จำเป็นต้องสร้างแบรนด์หรือพัฒนาสินค้าขึ้นมาใหม่ทั้งหมด แค่คิดไอเดียดีไซน์ที่เชื่อมโยงกับตัวตนหรือสไตล์ของคุณ แล้วนำไปพิมพ์ลงบนสินค้า เช่น แก้วมัค เสื้อยืด หรือโปสเตอร์งานศิลปะ ก็เริ่มต้นได้เลย

ตัวเลือกในการทำและขายสินค้าแบรนด์ตัวเองมีหลายวิธี เช่น
- ใช้บริการ Print-on-Demand เพื่อสั่งผลิตและจัดส่งสินค้าให้แฟนๆ โดยตรง
- นำสินค้าสำเร็จรูปมาทำแบรนด์ใหม่ (White-label) ใส่แบรนด์ของตัวเองลงไป โดยเลือกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์หรือคอนเทนต์ของคุณ เช่น สายยางออกกำลังกายสำหรับอินฟลูเอนเซอร์สายฟิตเนส
- ถ้าคุณชอบงานแฮนด์เมด อาจสนุกกับการทำสินค้าด้วยตัวเอง เช่น การสกรีนเสื้อยืดด้วยลายออกแบบของคุณเอง
4. ทำ Affiliate Marketing
Affiliate Marketer คือครีเอเตอร์หรือผู้สร้างคอนเทนต์ที่โปรโมตสินค้าและแบรนด์ต่างๆ แล้วรับค่าคอมมิชชันทุกครั้งที่มีคนคลิกและสั่งซื้อสำเร็จ แบรนด์จะให้ลิงก์ติดตามพิเศษหรือโค้ดโปรโมชันเฉพาะ เพื่อระบุยอดขายที่มาจากครีเอเตอร์ต่างๆ ได้อย่างชัดเจน แตกต่างจากอินฟลูเอนเซอร์ทั่วไปที่มักได้ค่าจ้างแบบเหมาจ่าย เพราะ Affiliate จะทำรายได้เฉพาะเมื่อสร้างยอดขายได้จริงเท่านั้น
Affiliate Program คือหนึ่งในวิธีทำเงินจาก IG ที่ระบบที่แบรนด์ตั้งขึ้นมาเพื่อบริหารจัดการความร่วมมือกับครีเอเตอร์บน Instagram หรือผู้ใช้ทั่วไป หากคุณเป็นครีเอเตอร์ สามารถติดต่อแบรนด์โดยตรง หรือสมัครเข้าร่วมโปรแกรม Affiliate ยอดนิยมต่างๆ ได้เช่นกัน
สำหรับการโปรโมตแบรนด์ที่เป็น Affiliate ขอแนะนำให้ใช้วิธีผสมผสาน เช่น ใส่ลิงก์ใน Bio ของ Instagram, ใส่ลิงก์ใน Instagram Stories รวมลิงก์ทั้งหมดไว้ในหน้า Link-in-bio เพื่อโปรโมตหลายแบรนด์พร้อมกัน
นอกจากนี้ คุณยังสามารถแชร์โค้ดโปรโมชันในแคปชันโพสต์ได้ด้วย (เพราะในโพสต์ธรรมดาไม่สามารถใส่ลิงก์ได้) เพื่อสร้างโอกาสในการปิดยอดขายมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น Caullen Hudson อินฟลูเอนเซอร์สายฟิตเนสบน Instagram ที่โปรโมตหลายแบรนด์อย่าง MVMT โดยชวนผู้ติดตามไปยังหน้า Link-in-bio ของเขาซึ่งรวมลิงก์ Affiliate ไว้ครบ
5. การขายผ่านโซเชียล
Instagram ได้พัฒนาไปไกลกว่าการเป็นแค่แพลตฟอร์มสำหรับค้นพบสินค้าใหม่ๆ เพราะตอนนี้กลายเป็นพื้นที่ที่ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าได้จริง ฟีเจอร์ต่างๆ อย่าง Instagram Shopping tags ช่วยให้ผู้ใช้ขยับจากแรงบันดาลใจไปสู่ข้อมูลสินค้าได้ในทันที
อีกหนึ่งไอเดียวิธีทำเงินจาก IG ก็คือ ถ้าคุณมีร้านค้า Shopify คุณสามารถใช้แอป Facebook & Instagram เพื่อซิงค์ข้อมูลสินค้าและข้อมูลลูกค้าระหว่าง Shopify กับ Instagram และบริหารจัดการออเดอร์จาก Instagram ได้โดยตรงผ่านหน้าหลังบ้าน Shopify
ตัวอย่างเช่น แบรนด์แฟชั่น Miracle Eye ที่แม้จะมีเว็บไซต์ของตัวเอง แต่ก็ใช้ Instagram Shop เป็นช่องทางเสริม เพื่อให้แฟนๆ เข้าถึงคอลเลกชันสินค้าได้ง่ายเพียงแตะเดียว

คุณสามารถปรับแต่งร้านค้าของตัวเองได้ด้วยการสร้างคอลเลกชัน หรือจัดหมวดหมู่สินค้าให้เข้ากับธีมหรือโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น สินค้ามาใหม่ ของขวัญสำหรับคุณแม่ ของแต่งบ้านช่วงเทศกาล หรือไอเท็มสนุกๆ สำหรับหน้าร้อน เป็นต้น
Instagram Shop ของคุณจะเป็นเหมือนมินิช็อปออนไลน์ที่รวมภาพสินค้า ราคา และรายละเอียดสินค้าไว้ครบ คล้ายกับเว็บไซต์ของคุณ ที่นี่ผู้ใช้ Instagram สามารถเลือกซื้อสินค้าได้โดยตรงบนแพลตฟอร์ม

ผู้ติดตามสามารถซื้อสินค้าของคุณได้ทั่วทั้ง Instagram ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ เช่น
- โพสต์และ Stories ที่ช้อปได้: ใช้แท็กสินค้าเพื่อโชว์สินค้าจากแคตตาล็อกของคุณในวิดีโอและภาพต่างๆ (สามารถทำได้โดยตรงจากหน้า Shopify Admin)
- โฆษณาพร้อมแท็กสินค้า (Ads with Shopping tags): ซิงค์ Shopify Admin เข้ากับ Meta Ads Manager เพื่อสร้างโพสต์ช้อปได้ หรือโปรโมตโพสต์ Instagram ที่มีอยู่แล้ว
6. วิธีทำเงินจาก IG ด้วยการขายภาพถ่าย

แม้ว่าวิดีโอและฟีเจอร์ใหม่ๆ จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น แต่ในแก่นแท้แล้ว Instagram ก็ยังคงเป็นแอปสำหรับแชร์ภาพถ่ายอยู่ดี นั่นทำให้ที่นี่เป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับศิลปินและช่างภาพในการสร้างรายได้จากการขายงานต้นฉบับหรืองานพิมพ์ซ้ำ ซึ่งก็มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้ เช่น
- ใช้แพลตฟอร์มขายภาพอย่าง 500px แล้วใส่ลิงก์หน้าโปรไฟล์ไว้ใน Bio ของคุณ
- ขายภาพถ่ายหรือผลงานศิลปะ ทั้งแบบต้นฉบับหรืองานพิมพ์ ผ่านร้านค้าออนไลน์ของตัวเอง แล้วใส่ลิงก์ใน Bio ของ Instagram
- วิธีทำเงินจาก IG ด้วยการขายสินค้าเหล่านี้โดยตรง ด้วยการใช้ฟีเจอร์ Instagram Shopping
- นำผลงานไปลิขสิทธิ์ขายบนเว็บไซต์ภาพสต็อก แล้วใช้ Instagram ดึงดูดลูกค้าเข้ามาที่ผลงานของคุณ
- ใช้บริการ Print-on-Demand อย่างเช่น Printful และ Teelaunch เพื่อพิมพ์ภาพถ่ายหรือผลงานศิลปะลงบนสินค้า เช่น กระเป๋าผ้า แก้ว หรือเสื้อยืด แล้วโปรโมตผ่านคอนเทนต์บน Instagram
ตัวอย่างเช่น ศิลปิน Adam Spychala ใช้บัญชี Instagram ของเขาเพื่อชวนผู้ติดตามไปที่ร้านค้าออนไลน์ ซึ่งเขาจำหน่ายงานพิมพ์ผลงานของตัวเอง

7. รับเหรียญ Live จากแฟนๆ
Instagram Live Badges เปรียบเสมือนทิปที่แฟนๆ มอบให้คุณ เพื่อขอบคุณที่สร้างคอนเทนต์ดีๆ และมีคุณค่า ถ้าคุณคุ้นเคยกับระบบทิปบน Twitch และ TikTok อยู่แล้ว ก็พร้อมเริ่มทำเงินจากการเป็นตัวเองบน Instagram ได้เลย
ระหว่างการไลฟ์สดบน Instagram ผู้ชมสามารถซื้อแบดจ์ (ไอคอนที่มีมูลค่าเงินต่างกัน) เพื่อสนับสนุนครีเอเตอร์ได้โดยตรง และปลดล็อกฟีเจอร์พิเศษสำหรับผู้ชมเอง ผู้ใช้ Instagram สามารถซื้อแบดจ์ได้ในราคา $0.99, $1.99 และ $4.99 เพื่อสนับสนุนงานของครีเอเตอร์
นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้วิธีทำเงินจาก IG Reels ผ่านฟีเจอร์ Instagram Gifts ได้ด้วย โดยผู้ชมจะซื้อ Stars เพื่อมอบให้ครีเอเตอร์ และครีเอเตอร์จะได้รับเงินจาก Instagram เป็นรายเดือนในอัตรา 1 เซนต์ต่อ 1 ดาว
8. เปิดระบบสมัครสมาชิกแบบมีค่าใช้จ่าย
“ใช่แล้ว! คุณสามารถทำโพสต์สปอนเซอร์หรือวิธีทำเงินจาก IG Reels ได้โดยตรง” Rachel กล่าว “แต่ในฐานะครีเอเตอร์หรือธุรกิจขนาดเล็ก ฉันแนะนำให้มอง Instagram ในมุมของการสร้างการรับรู้ (awareness) มากกว่าการคาดหวังแค่ยอดขายหรือการหาสปอนเซอร์”
เมื่อแฟนๆ เริ่มติดตามคอนเทนต์ของคุณแล้ว คุณสามารถเสนอให้พวกเขาเข้าถึงคอนเทนต์พิเศษเฉพาะสมาชิกแบบเสียเงินได้ Instagram มีโปรแกรมสมัครสมาชิกสำหรับครีเอเตอร์ในสหรัฐฯ ที่มีอายุเกิน 18 ปีและมีผู้ติดตามมากกว่า 10,000 คน
คุณยังสามารถใช้แพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น Patreon เพื่อสร้างรายได้จากระบบสมัครสมาชิก หรือใช้ Substack หากอยากทำจดหมายข่าวสำหรับแฟนตัวจริงที่เสริมกับเพจ Instagram ของคุณก็ได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถตั้งค่าร้านค้าออนไลน์ของตัวเองให้เปิดเฉพาะสำหรับสมาชิกแบบเสียเงิน เพื่อเสนอคอนเทนต์พิเศษสำหรับผู้ที่ลงชื่อเข้าใช้งาน ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้คุณสร้างฐานอีเมลและเป็นเจ้าของกลุ่มแฟนๆ ของตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่ง
ตัวอย่างเช่น ครีเอเตอร์และนักพยากรณ์ดวงดาว Aliza Kelly โปรโมตทั้งการสมัครสมาชิก Substack ของเธอชื่อ The Practice และการสมัครสมาชิกแบบมีค่าใช้จ่ายในคอมมูนิตี้ The Constellation Club ผ่านหน้า Instagram ของเธอที่ได้รับความนิยม

9. ขายของมือสองผ่าน IG
ถ้าคุณสนใจแฟชั่นหรือของแต่งบ้าน วิธีทำเงินจาก IG ด้วยการขายของมือสองอาจเป็นไอเดียที่ดี เพราะทั้งเซเลบริตี้และไมโครอินฟลูเอนเซอร์ต่างก็ใช้แพลตฟอร์มนี้ในการจัดเซลล์เคลียร์ตู้เสื้อผ้าอยู่บ่อยๆ
ผู้ติดตามที่ชื่นชมสไตล์ส่วนตัวของคุณก็อาจตื่นเต้นกับของมือสองเหล่านี้ โดยเฉพาะถ้าเคยเห็นคุณใส่หรือใช้งานในโพสต์ Instagram มาก่อน วิธีหนึ่งในการขายก็คือ โพสต์สินค้าใน Instagram Stories และให้ผู้ติดตาม DM มาจองสินค้าแบบมาก่อนได้ก่อน นอกจากนี้ ควรประกาศล่วงหน้าเพื่อสร้างกระแสความสนใจ
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก ก็สามารถใช้วิธีคล้ายกันนี้จัด เซลล์สินค้าตัวอย่าง (Sample Sale) แบบออนไลน์ได้ เพียงแค่แชร์ภาพสินค้าที่มีตำหนิเล็กน้อยลงใน Stories พร้อมเปิดขายแบบจำกัดเวลา
ปัจจัยที่มีผลต่อรายได้จาก Instagram
มีหลายปัจจัยที่กำหนดว่าครีเอเตอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์บน Instagram จะทำรายได้ได้มากน้อยแค่ไหน บางคนที่มีผู้ติดตามไม่มากก็ยังสามารถสร้างรายได้ดีได้ หากเจาะกลุ่มเฉพาะ (Niche) ที่ทำเงินได้สูง เช่น สินค้าการเงิน ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง บัญชีของเหล่าเซเลบริตี้สามารถทำเงินได้หลายล้านดอลลาร์จากโพสต์เดียว
นี่คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่มีผลต่อรายได้ของครีเอเตอร์บน Instagram
จำนวนผู้ติดตาม
วิธีหนึ่งที่นิยมใช้จัดกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์บน Instagram และประเมินศักยภาพการทำรายได้ คือการแบ่งตามจำนวนผู้ติดตามออกเป็น 5 ระดับ โดยทั่วไป ราคาค่าจ้างของอินฟลูเอนเซอร์จะสัมพันธ์กับจำนวนผู้ติดตามดังนี้
- นาโนอินฟลูเอนเซอร์: 1,000–10,000 ผู้ติดตาม (ประมาณ 360–3,600 บาท ต่อโพสต์)
- ไมโครอินฟลูเอนเซอร์: 10,000–50,000 ผู้ติดตาม (ประมาณ 3,600–18,000 บาท ต่อโพสต์)
- มิดเทียร์อินฟลูเอนเซอร์: 50,000–500,000 ผู้ติดตาม (ประมาณ 18,000–180,000 บาท ต่อโพสต์)
- มาโครอินฟลูเอนเซอร์: 500,000–1 ล้านผู้ติดตาม (ประมาณ 180,000–360,000 บาท ต่อโพสต์)
- เมกะอินฟลูเอนเซอร์: มากกว่า 1 ล้านผู้ติดตาม (ประมาณ 360,000–36,000,000+ บาท ต่อโพสต์)
อัตราการมีส่วนร่วม
Followers ของคุณคอนเมนต์หรือกดไลก์โพสต์บ่อยแค่ไหน? ฐานผู้ติดตามที่มีการมีส่วนร่วมสูงจะช่วยเพิ่มมูลค่าคอนเทนต์ เพราะพวกเขาจะแชร์และกระตุ้นการสนทนาในคอมเมนต์ ช่วยเพิ่มโอกาสที่อัลกอริทึมของ Instagram และผลักดันคอนเทนต์ของคุณให้เข้าถึงคนมากขึ้น
กลุ่มแฟนๆ ตัวยงมักมีแนวโน้มทำตามคำกระตุ้นการตัดสินใจ (Call to Action) เช่น คลิกลิงก์ Affiliate ที่คุณโปรโมต
ค่าคอมมิชชันจาก Affiliate Marketing
ค่าคอมมิชชันที่คุณได้รับจากการชักชวนให้ผู้ติดตามคลิกลิงก์ Affiliate รวมถึงรายได้รวม จะขึ้นอยู่กับพันธมิตรที่คุณเลือกและประเภทสินค้าที่คุณโปรโมตอย่างมาก
เมื่อบัญชีของคุณเติบโตขึ้น คุณสามารถใช้ฐานผู้ติดตามที่ใหญ่ขึ้นเพื่อเจรจาอัตราค่าคอมมิชชันที่ดีกว่าได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้จาก Instagram ได้มากขึ้น
กลุ่มเฉพาะ (Niche)
กลุ่มเป้าหมายที่คุณเลือกเจาะจงมีผลอย่างมากต่อรายได้ต่อผู้ติดตาม หากผู้ติดตามของคุณอยู่ในกลุ่มประชากรเฉพาะที่แบรนด์ให้ความสนใจ หรือสนใจสินค้าราคาสูง คุณก็มีโอกาสได้รับข้อเสนอสปอนเซอร์ที่ดีกว่า
จำนวนช่องทางหารายได้
การทำ Affiliate Marketing และการโปรโมตสินค้ารายชิ้นเป็นวิธีหารายได้จาก Instagram ที่พบได้บ่อยที่สุด แต่จำนวนเงินที่คุณทำได้จริงจะขึ้นอยู่กับจำนวนช่องทางสร้างรายได้ที่คุณเลือกใช้ด้วย
นอกจากโมเดลเหล่านี้แล้ว คุณยังสามารถสร้างไลน์สินค้าแบรนด์ตัวเอง เช่น สินค้าพรีเมียม หรือทำสัญญาแบรนด์ดีลระยะยาวที่มีการโพสต์ต่อเนื่องหลายโพสต์หรือ Reels ซึ่งมักจะให้รายได้สูงกว่าแบบรายครั้ง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีทำเงินจาก Instagram
Instagram จ่ายเงินให้คุณได้มั้ย?
ได้ คุณสามารถรับรายได้จาก Instagram ได้ หากคุณกำลังมองหาวิธีทำเงินจาก IG มีหลายแนวทางที่คุณสามารถเลือกใช้ได้ เช่น:
- ร่วมงานกับแบรนด์ในการทำโพสต์สปอนเซอร์
- ทำ Affiliate Marketing
- ดึงทราฟฟิกไปยังเว็บไซต์ของแบรนด์ตัวเอง
- สร้างร้านค้า Instagram Shop
- ขายภาพถ่ายหรือผลงานศิลปะในรูปแบบงานพิมพ์
ต้องมีคนฟอลฯ ไอจีกี่คนถึงจะเริ่มทำเงินได้?
ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามเพียง 1,000 คนขึ้นไป (โดยมีการมีส่วนร่วมที่ดี) ก็สามารถเริ่มสร้างรายได้จากการทำโพสต์สปอนเซอร์บน Instagram ได้แล้ว โดยเรตราคาค่าจ้างจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น จำนวนผู้ติดตาม อัตราการมีส่วนร่วม คุณภาพของคอนเทนต์ การเป็นที่รู้จักของชื่อเสียง กลุ่มประชากรของผู้ติดตาม และทักษะของครีเอเตอร์เอง
Instagram จ่ายเงินจากยอดไลก์หรือไม่?
ไม่ โดยแม้ Instagram ไม่ได้จ่ายเงินจากจำนวนไลก์ แต่ก็มีโปรแกรมโบนัสแบบจำกัดเวลา (และต้องได้รับคำเชิญเท่านั้น) ซึ่งให้ครีเอเตอร์รับเงินตามจำนวนการเล่นหรือการรับชมคอนเทนต์ หากคุณยังไม่ได้รับคำเชิญ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะยังมีวิธีอื่นๆ อีกมากมายที่ทำเงินจาก Instagram ได้ เช่น การทำคอนเทนต์สปอนเซอร์ การทำ Affiliate Marketing การเปิดระบบสมัครสมาชิก หรือการขายสินค้าแบรนด์ตัวเอง