ธุรกิจการตลาดแบบแอฟฟิลิเอต (Affiliate Marketing) เป็นอุตสาหกรรมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่เต็มไปด้วยโอกาสสำหรับครีเอเตอร์ โดยปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในวิธีหลักที่แบรนด์อีคอมเมิร์ซใช้ในการโปรโมตสินค้าและบริการ — มีรายงานว่าแบรนด์ออนไลน์กว่า 80% ใช้กลยุทธ์แอฟฟิลิเอตในการขยายธุรกิจ
ข่าวดีก็คือ โปรแกรมแอฟฟิลิเอตส่วนใหญ่สมัครฟรี คุณจึงสามารถเริ่มต้นได้โดยแทบไม่ต้องลงทุน หลายคนเริ่มจากการทำแอฟฟิลิเอตเป็นรายได้เสริม และค่อยๆ เติบโตเป็นธุรกิจเต็มตัวในระยะยาว
คู่มือสำหรับมือใหม่นี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็ว เรียนรู้วิธีหาโปรแกรมแอฟฟิลิเอต สร้างลิงก์แอฟฟิลิเอต และเริ่มสร้างรายได้ในฐานะพาร์ตเนอร์
การตลาด Affiliate คืออะไร?
Affiliate Marketing คือโมเดลการขายที่บริษัทจ่ายค่าคอมมิชชันให้กับบุคคลภายนอก เพื่อช่วยโปรโมตและขายสินค้า หรือบริการให้กับลูกค้า
ถ้าคุณเคยฟังโฆษณาในพอดแคสต์ หรือเคยเห็นอินฟลูเอนเซอร์โปรโมตสินค้าบนโซเชียลมีเดีย นั่นแหละคือการทำ Affiliate Marketing
เมื่อพาร์ตเนอร์แนะนำสินค้าหรือบริการให้กับกลุ่มผู้ติดตาม แล้วมีคนซื้อผ่านลิงก์แนะนำ พาร์ตเนอร์จะได้รับค่าคอมมิชชันจากการขายนั้น
พอคุณสมัครเป็น Affiliate แล้ว คุณจะได้ลิงก์เฉพาะตัวไว้ใช้โปรโมตสินค้า ลิงก์นี้จะช่วยให้ผู้จัดการโปรแกรมสามารถติดตามยอดขายที่เกิดจากการแนะนำของคุณได้โดยตรง เมื่อมีคนคลิกและสั่งซื้อผ่านลิงก์ คุณก็จะได้รับค่าคอมมิชชันทันที
🌟 อยากเริ่มทำ Affiliate แต่มีงบจำกัดใช่ไหม? มาดูวิธีเริ่มต้นธุรกิจแอฟฟิลิเอตแบบไม่ต้องใช้เงินลงทุนกันเลย!

คุณสามารถทำตามวิธีเริ่มการตลาด Affiliate ด้วยการหาสมัครเข้าร่วมโปรแกรมได้โดยตรงกับบริษัท หรือผ่านเครือข่ายแอฟฟิลิเอตที่รวบรวมหลายโปรแกรมไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน หลักการทำงานของโปรแกรมแอฟฟิลิเอตโดยทั่วไปจะเป็นดังนี้
- คุณโปรโมตร้านค้า XYZ ผ่านเว็บไซต์ บล็อก หรือโซเชียลมีเดียของคุณ
- มีคนคลิกลิงก์เฉพาะของคุณ
- พวกเขาทำการสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้า XYZ
- บริษัทหรือเครือข่ายแอฟฟิลิเอตจะบันทึกธุรกรรมนี้ไว้
- ร้านค้า XYZ ยืนยันคำสั่งซื้อ
- คุณได้รับค่าคอมมิชชัน
ตัวอย่างเช่น อินฟลูเอนเซอร์บน Instagram อย่าง @caullenfit ได้โปรโมตแบรนด์นาฬิกา MVMT โดยใส่ลิงก์แอฟฟิลิเอตไว้ในไบโอของเขา ซึ่ง MVMT เองก็มีโปรแกรมแอฟฟิลิเอตสำหรับดึงดูดอินฟลูเอนเซอร์สายไลฟ์สไตล์แบบนี้โดยเฉพาะ
ถ้ถ้าคุณคลิกลิงก์ในไบโอของเขา คุณจะเห็นลิงก์อื่นๆ ไปยังแบรนด์ต่างๆ ที่ Caullen โปรโมตไว้ รวมถึง MVMT ด้วย
ถ้าคุณตัดสินใจซื้อเรือนเวลา MVMT จริงๆ ตอนที่คุณชำระเงิน จะมี 8% ของยอดซื้อที่เป็นรายได้เข้ากระเป๋า @caullenfit โดยตรง และที่พิเศษคือ Caullen ยังให้ส่วนลด 15% กับผู้ติดตาม ผ่านลิงก์แอฟฟิลิเอตบนหน้าไบโอของเขาอีกด้วย

หากคุณตัดสินใจว่าคุณต้องการซื้อ นาฬิกา MVMT เมื่อคุณชำระเงิน 8% ของการซื้อ จะเข้าสู่กระเป๋าของ @caullenfit Caullen ยังเสนอส่วนลด 15% ให้กับผู้ชมของเขาผ่านลิงก์พันธมิตรในหน้าเชื่อมโยงในชีวประวัติของเขา
วิธีเริ่มการตลาด Affiliate
- เลือกกลุ่มเป้าหมายหรือ “Niche” ที่คุณสนใจ
- เลือกช่องทางที่คุณจะใช้ในการทำแอฟฟิลิเอต
- หาโปรแกรมแอฟฟิลิเอตที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
- สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าและน่าเชื่อถือ
- สร้างฐานผู้ติดตาม
1. เลือกกลุ่มเป้าหมาย
ข้อแรกของวิธีเริ่มการตลาด Affiliate โดยกลุ่มเฉพาะคือส่วนย่อยของตลาดขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเฉพาะตัว และจะกลายเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของคุณ เป็นหัวข้อที่คนจะนึกถึงคุณเมื่อพูดถึงเรื่องนั้นๆ เช่น บล็อกท่องเที่ยว การดูแลสัตว์เลี้ยง หรือบ้านขนาดเล็ก ก็ถือเป็นตัวอย่างของนิชที่นิยมในสายแอฟฟิลิเอต
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ตัวเลือกเดียว ยังมีอีกหลายร้อยกลุ่มให้คุณเลือกทำแอฟฟิลิเอต แล้วจะเลือกนิชที่มีโอกาสทำเงินและคุณสนใจได้อย่างไร? ลองพิจารณาจากคำถามเหล่านี้
- คุณอยากเรียนรู้เกี่ยวกับนิชนี้จริงมั้ย? เพราะคุณต้องกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ โดยการเรียนรู้และติดตามเทรนด์อย่างต่อเนื่อง
- คุณสามารถช่วยแก้ปัญหาในกลุ่มนี้หรือไม่? นักทำแอฟฟิลิเอตที่ประสบความสำเร็จมักมีประสบการณ์หรือความรู้เฉพาะในเรื่องนั้น ทำให้สามารถนำเสนอข้อมูลในมุมใหม่และให้คำแนะนำที่มีประโยชน์
- นิชนี้ทำเงินได้ไหม? ถ้านิชที่คุณสนใจมีคู่แข่งอยู่บ้าง นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ดีว่ามีตลาดพร้อมสำหรับการขาย
เป้าหมายคือเลือกนิชที่ทั้งทำเงินได้ และคุณมีความสนใจจริง เพราะการทำแอฟฟิลิเอตต้องใช้เวลาและความทุ่มเท หากคุณสนุกกับมัน โอกาสที่จะทำต่อเนื่องและประสบความสำเร็จก็มีมากขึ้น
2. เลือกช่องทางที่คุณจะใช้ในการทำแอฟฟิลิเอต
ขั้นตอนต่อไปของวิธีเริ่มการตลาด Affiliate คือการเลือกช่องทางที่คุณจะใช้ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพราะนักทำแอฟฟิลิเอตแต่ละคนมีวิธีที่แตกต่างกันในการสร้างรายได้
ตัวอย่างเช่น Ryan Robinson แม้จะมีบัญชี Instagram แต่รายได้หลักของเขามาจากบล็อกเป็นหลัก ขณะที่บางคนโฟกัสเฉพาะการทำ Affiliate ผ่าน Instagram หรือ TikTok ก็สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้เช่นกัน
สำหรับมือใหม่ส่วนใหญ่ มักจะเลือกเริ่มจากหนึ่งในสองช่องทางหลักต่อไปนี้
เว็บไซต์รีวิวสินค้าเฉพาะกลุ่ม
เว็บไซต์ประเภทนี้จะเน้นรีวิวสินค้าสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ โดยมักจะเปรียบเทียบสินค้าจากหลายแบรนด์ รวมถึงนำเสนอคู่มือการซื้อและบทความแนะนำวิธีใช้ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่นเว็บไซต์ Wirecutter ของ The New York Times ที่ทำ Affiliate Marketing ด้วยการรีวิวสินค้าในเชิงลึกและน่าเชื่อถือ

คอนเทนต์ให้ข้อมูลบนบล็อกและโซเชียลมีเดีย
บล็อกเกอร์ อินฟลูเอนเซอร์ และยูทูบเบอร์มักสร้างคอนเทนต์แอฟฟิลิเอตที่ตรงใจผู้ติดตาม เพื่อเพิ่มอิทธิพลและกระตุ้นให้เกิดการคลิก
ตัวอย่างที่ดีคือบล็อกของ Ryan Robinson ที่โฟกัสเรื่องฟรีแลนซ์ เขามักจะเผยแพร่บทความใหม่เกี่ยวกับการทำงานอิสระอย่างสม่ำเสมอ เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้อ่านที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ที่เขาทำแอฟฟิลิเอตด้วย

ความจริงใจและการมีส่วนร่วมกับผู้ชมคือสองปัจจัยสำคัญของการทำ Affiliate Marketing หากคุณไม่สามารถเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้ โอกาสที่พวกเขาจะซื้อสินค้าที่คุณแนะนำก็จะน้อยลงตามไปด้วย
ไม่แน่ใจว่าจะเริ่มที่แพลตฟอร์มไหนดี? ให้เริ่มจากสิ่งที่คุณถนัดก่อน ถ้าคุณชอบถ่ายวิดีโอบนโซเชียลมีเดีย ลองเริ่มที่ Instagram ถ้าคุณเขียนเก่ง การทำบล็อกอาจเป็นทางเลือกที่ใช่ การเริ่มต้นบนแพลตฟอร์มที่คุณเข้าใจดีอยู่แล้ว จะช่วยให้คุณสร้างคอนเทนต์ที่เชื่อมโยงกับผู้ชมได้ดี และเพิ่มโอกาสปิดการขายผ่านลิงก์แอฟฟิลิเอต และหากคุณเก่งเรื่องทำวิดีโอบน YouTube แพลตฟอร์มนี้ก็มีโปรแกรม Affiliate Marketing ของตัวเองเช่นกัน โดยคุณต้องผ่านเกณฑ์บางอย่าง เช่น เข้าร่วม YouTube Partner Program เป็นแอคเคาท์ที่มีฐานผู้ชมในสหรัฐฯ และมีผู้ติดตามช่องมากกว่า 20,000 คน
แบรนด์ต่างๆ ก็สามารถเข้าร่วมโปรแกรม YouTube Shopping Affiliate ได้เช่นกัน ร้านค้า Shopify ที่เข้าเกณฑ์สามารถซิงก์สินค้ากับ YouTube ได้อย่างง่ายดายผ่านแอป Google & YouTube บน Shopify ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถแท็กสินค้าบนวิดีโอ และเปิดให้ผู้ชมช้อประหว่างชมได้ทันที
3. หาโปรแกรม Affiliate ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
วิธีเริ่มการตลาด Affiliate โดยเลือกโปรแกรม Affiliate ที่เหมาะกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่แค่เพราะมีค่าคอมมิชชันสูงเท่านั้น เพราะการจับคู่ให้ถูกคือหัวใจของความสำเร็จ
สิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกโปรแกรมแอฟฟิลิเอต มีดังนี้
-
แบรนด์น่าเชื่อถือหรือไม่? เลือกทำงานกับพาร์ตเนอร์ที่ลูกค้าไว้วางใจเท่านั้น โชคดีที่เครือข่ายแอฟฟิลิเอตมักตรวจสอบและคัดกรองร้านค้าที่มีความน่าเชื่อถือและทำกำไรได้มาไว้ให้คุณแล้ว
-
ค่าคอมมิชชันดีหรือไม่? คุณควรได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับเวลาและความพยายาม โปรแกรมจำนวนมากให้ค่าคอมฯ สูงกว่า 20% ต่อการขาย ลองเลือกเรทที่เหมาะกับคุณ
- รายได้เฉลี่ยต่อคลิก (EPC) สูงหรือเปล่า? EPC คือค่าเฉลี่ยรายได้ที่แอฟฟิลิเอตได้รับต่อการคลิก 100 ครั้ง เป็นเมตริกที่ใช้กันทั่ววงการ หลายเครือข่ายแอฟฟิลิเอตจะแสดงข้อมูลนี้ไว้ให้เห็นก่อนสมัคร
การหาโปรแกรมที่สอดคล้องกับเนื้อหาและกลุ่มเป้าหมายเป็นปัจจัยสำคัญของธุรกิจแอฟฟิลิเอตที่ประสบความสำเร็จ
ยกตัวอย่างเช่น True Crime Obsessed พอดแคสต์แนวคอมเมดี้ที่ดำเนินรายการโดยเพื่อนซี้ Patrick Hinds และ Gillian Pensavalle ซึ่งนำเสนอสารคดีอาชญากรรมจริงในสไตล์ตลก พวกเขาใช้แนวทางที่ไม่เหมือนใครในหมวดที่ได้รับความนิยม จนมียอดดาวน์โหลดเกิน 200 ล้านครั้ง และสามารถโปรโมตสินค้าและบริการแอฟฟิลิเอตหลากหลายประเภทได้สำเร็จ เมื่อผู้ฟังคลิกลิงก์แล้วซื้อสินค้า พวกเขาก็จะได้รับค่าคอมมิชชันทันที

หากต้องการหาโอกาสวิธีเริ่มการตลาด Affiliate อย่างมืออาชีพ ลองเริ่มจากแบรนด์ที่คุณชื่นชอบก่อน ถามพวกเขาว่ามีโปรแกรมแอมบาสเดอร์หรือโปรแกรมแอฟฟิลิเอตหรือไม่ แบบนี้คุณจะได้โปรโมตสินค้าที่คุณชอบและใช้อยู่แล้ว ซึ่งทำให้แนะนำได้อย่างจริงใจ
นอกจากนี้ ยังสามารถหาแบรนด์และสินค้าเพื่อร่วมงานได้จากมาร์เก็ตเพลสแอฟฟิลิเอตยอดนิยม เช่น
สมัครเป็นพาร์ตเนอร์แอฟฟิลิเอตกับ Shopify
เข้าร่วมโปรแกรมเพื่อขยายแบรนด์ของคุณ รับสิทธิประโยชน์พิเศษ และรับค่าคอมมิชชันในอัตราที่แข่งขันได้สำหรับทุกธุรกิจใหม่ที่คุณแนะนำให้มาใช้ Shopify
4. สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าและน่าเชื่อถือ
ในปี 2024 คนใช้เวลาออนไลน์เฉลี่ยวันละ 6 ชั่วโมง 38 นาที ซึ่งหมายความว่าครีเอเตอร์ออนไลน์มีโอกาสมากมายในการดึงดูดความสนใจของผู้คนทั่วโลก แต่การจะคว้าโอกาสนั้นมาได้ คุณต้องสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
บล็อกถือเป็นหนึ่งในวิธีสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายได้ดี โดยมีรายงานว่า 65% ของนักการตลาดแอฟฟิลิเอตใช้บล็อกเพื่อดึงทราฟฟิกมายังลิงก์แอฟฟิลิเอตของตน
การโปรโมตลิงก์แอฟฟิลิเอตบนโซเชียลมีเดียก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ฟรีและมีประสิทธิภาพในการเข้าถึงผู้ที่สนใจจริง เช่น @taylerfit ผู้ที่สร้างบัญชี TikTok ด้านฟิตเนสจนมีผู้ติดตามมากกว่า 460,000 คน และสร้างรายได้จากการโปรโมตแบรนด์อย่าง 1UpNutrition ผ่านการทำ Affiliate Marketing
ในหน้าโปรไฟล์ของ Tayler ที่มีลิงก์รวม (link-in-bio) แฟนๆ จะสามารถพบลิงก์แอฟฟิลิเอตไปยังสินค้าที่เธอโปรโมตไว้ในคอนเทนต์ของเธอได้ทุกชิ้น และทุกครั้งที่มีคนคลิกแล้วซื้อสินค้าเหล่านั้น Tayler ก็จะได้รับรายได้จากค่าคอมมิชชันของแอฟฟิลิเอตทันที

5. สร้างฐานผู้ติดตาม
ถ้าคุณอยากมีผู้ติดตาม สิ่งแรกที่ต้องทำคือ “เข้าถึง” พวกเขาให้ได้ก่อน การสร้างลิสต์อีเมลเป็นวิธีที่ดีในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง คุณสามารถส่งจดหมายข่าว อัปเดตคอนเทนต์ใหม่ๆ หรือข้อเสนอพิเศษให้กับคนที่สมัครเข้ามาในลิสต์ของคุณได้โดยตรง
ถ้าคุณทำคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียเป็นหลัก ลองติดตามหรือแท็กอินฟลูเอนเซอร์ที่สนใจในกลุ่มเดียวกับคุณ เป้าหมายคือทำทุกทางเพื่อเพิ่มทราฟฟิกให้กับเว็บไซต์หรือหน้าโซเชียลมีเดียของคุณ
แค่ดึงผู้ชมเข้ามาได้ยังไม่พอ สิ่งสำคัญคือคุณต้องสร้าง “ความไว้ใจ” เพื่อให้พวกเขากลับมาติดตามคุณต่อเนื่อง
อย่าขายของแบบหวังแค่ยอดเร็วๆ เพราะผู้ติดตามจะรู้สึกทันทีว่าเนื้อหานั้นไม่มีความจริงใจ ยิ่งคุณแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและสนใจในสิ่งที่คุณแนะนำมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งเชื่อใจคุณมากขึ้นเท่านั้น
ประโยชน์ของการทำ Affiliate Marketing
ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าการตลาดแอฟฟิลิเอตทำงานอย่างไร มาดูข้อดีหลักๆ ของการทำ Affiliate Marketing กัน
คุณไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินค้าที่คุณโปรโมต
โปรแกรมแอฟฟิลิเอตแบบสาธารณะส่วนใหญ่ เช่น Amazon Associates ไม่บังคับให้คุณซื้อสินค้ามาใช้ก่อน คุณแค่สมัครเข้าร่วมโปรแกรม รับลิงก์แอฟฟิลิเอต แล้วนำไปโพสต์บนเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของคุณได้ทันที
ข้อดีคือคุณไม่ต้องลงทุนก้อนโตตั้งแต่แรกเริ่ม เหมาะมากสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้น เพราะคุณสามารถทดลองโปรโมตสินค้าหลากหลาย และดูว่าแบบไหนเข้ากับกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ดีที่สุด
เป็นแหล่งรายได้แบบพาสซีฟ
เมื่อคุณวางระบบไว้ดี และสามารถดึงทราฟฟิกเข้าสู่เว็บไซต์ได้อย่างต่อเนื่อง รายได้ก็จะไหลเข้ามาแบบอัตโนมัติ สิ่งที่ต้องทำมีแค่เลือกพาร์ตเนอร์แอฟฟิลิเอตที่เหมาะกับผู้ติดตามของคุณ แล้วนำลิงก์แปะไว้อย่างเป็นธรรมชาติ ลิงก์พิเศษของคุณจะทำหน้าที่สร้างค่าคอมมิชชันอย่างต่อเนื่อง ตราบใดที่คุณยังแสดงไว้บนเว็บไซต์หรือคอนเทนต์ของคุณ
มีโอกาสสร้างรายได้สูง
แอฟฟิลิเอตมาร์เก็ตติ้งสามารถทำรายได้แตะหลักแสนเหรียญต่อเดือนได้ แม้จะไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นทันทีสำหรับมือใหม่ แต่โอกาสมีอยู่จริง หลายคนสามารถเปลี่ยนจากงานประจำมาทำแอฟฟิลิเอตเป็นอาชีพหลักได้ในที่สุด
ย้อนกลับไปปี 2016 Pat Flynn นักการตลาดแอฟฟิลิเอตชื่อดังเคยให้สัมภาษณ์กับ Business Insider ว่าเขาทำรายได้สูงถึง $170,000 ต่อเดือนจากค่าคอมมิชชัน
Rohan Kadam ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Biking Know How ก็เริ่มจากบล็อกเล็กๆ ด้วยความหลงใหลในการผจญภัย ก่อนจะพัฒนาให้กลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จผ่านการขายแบบแอฟฟิลิเอต “ผมเร่งขยายธุรกิจของตัวเอง โดยเฉพาะช่วงโควิด และสามารถทำกำไรได้ในเวลาอันสั้น” เขากล่าว
คุณสามารถทำรายได้จากแอฟฟิลิเอตได้เท่าไร ในฐานะมือใหม่?
รายได้จากการทำ Affiliate ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นการดึงทราฟฟิกเข้าสู่เว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของคุณ การเลือกสินค้าหรือบริการที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย ไปจนถึงอัตราค่าคอมมิชชันของแต่ละโปรแกรมที่คุณเข้าร่วม
โดยทั่วไปแล้ว อัตราค่าคอมมิชชันในแต่ละโปรแกรมจะแตกต่างกันอย่างมาก โปรแกรมที่ขายสินค้าราคาสูง (High-ticket) มักให้ค่าคอมฯ สูงและจ่ายมากต่อครั้ง แต่ยอดขายอาจเกิดได้น้อยกว่า ส่วนสินค้าราคาทั่วไป มักให้ค่าคอมมิชชันอยู่ระหว่าง 1%–20% ซึ่งอาจมียอดขายที่เกิดบ่อยกว่า
บางแบรนด์ก็มีโปรแกรมแอฟฟิลิเอตของตัวเอง โดยใช้อัตราค่าคอมมิชชันแบบเฉพาะ เช่น ค่าคอมฯ แบบคงที่ หรือจ่ายตามจำนวนคลิก แม้ยังไม่เกิดการขายก็ตาม โดยเมื่อคุณมีผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจสามารถเจรจาเพื่อขอเรทค่าคอมมิชชันที่ดีกว่ากับพาร์ตเนอร์ได้ในอนาคตอีกด้วย
สร้างรายได้แบบพาสซีฟด้วยการทำ Affiliate อย่างได้ผล
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ารายได้จากแอฟฟิลิเอตคือหนึ่งในวิธีหาเงินออนไลน์ที่ฉลาดที่สุด เพียงคุณลงทุนเวลาและความพยายามเล็กน้อยในช่วงเริ่มต้น ก็สามารถสร้างฐานผู้ติดตาม และรับค่าคอมมิชชันอย่างสม่ำเสมอผ่านเว็บไซต์แอฟฟิลิเอตของคุณ โดยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงมากเกินไป
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีเริ่มการตลาด Affiliate สำหรับมือใหม่
วิธีเริ่มการตลาด Affiliateสำหรับมือใหม่ ต้องทำยังไงบ้าง?
- เลือกหัวข้อหรือนิชที่สนใจ
- เลือกแพลตฟอร์มที่คุณถนัด (เช่น บล็อก, Instagram, TikTok)
- ค้นหาโปรแกรม Affiliate ที่เกี่ยวข้องผ่านเครือข่ายหรือมาร์เก็ตเพลส
- สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย
- สร้างฐานผู้ติดตาม
นักทำ Affiliate มือใหม่จะมีรายได้ประมาณเท่าไหร่?
มือใหม่ที่มีวิธีเริ่มการตลาด Affiliate อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถรับค่าคอมมิชชันสูงถึง 30% ต่อการขายหนึ่งครั้ง โดยรายได้ต่อปีอาจอยู่ในช่วงประมาณ 360,000–3,600,000 บาท แล้วแต่จำนวนยอดขายที่ทำได้
วิธีเริ่มการตลาด Affiliate ที่เหมาะกับมือใหม่ มีอะไรบ้าง?
โอกาสที่เหมาะที่สุด คือการเลือกโปรแกรม Affiliate ที่เกี่ยวข้องกับนิชของคุณ เลือกโปรแกรมที่ให้ค่าคอมมิชชันสูง และตรงกับเทรนด์หรือคำค้นหายอดนิยม โดยคุณสามารถค้นหาโปรแกรมเหล่านี้ได้จากเครือข่ายแอฟฟิลิเอต เช่น
- CJ
- ClickBank
- FlexOffers
- ShareASale
- Awin
การทำ Affiliate คุ้มค่าสำหรับมือใหม่หรือไม่?
คุ้มค่า เพราะคุณสามารถเริ่มได้โดยไม่ต้องใช้เงิน คุณสามารถเริ่มสร้างกลุ่มเป้าหมายจากแพลตฟอร์มฟรี เช่น TikTok หรือ Instagram แล้วโปรโมตสินค้าผ่านลิงก์ Affiliate ได้เลย โดยไม่ต้องลงทุนล่วงหน้า
Affiliate Marketing แบ่งออกเป็นกี่แบบ?
Affiliate Marketing มีอยู่ 3 ประเภทหลัก ได้แก่ Unattached Affiliate ไม่เกี่ยวข้องกับสินค้า/บริการที่โปรโมตโดยตรง,Related Affiliate คือการโปรโมตสินค้าในกลุ่มที่คุณมีความรู้หรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง และ Involved Affiliate คือการที่คุณใช้ผลิตภัณฑ์เองและมีประสบการณ์ตรงก่อนนำมาโปรโมต